อัจฉริยะ ร้องรื้อคดีเว็บพนัน พบข้อมูลเอื้อประโยชน์ สส.ภาคใต้ - ตำรวจ

4 ม.ค. 67

อัจฉริยะ ร้อง ผบ.ตร.รื้อคดีเว็บพนันหลังพบข้อมูลเอื้อประโยชน์ สส.คนดังภาคใต้-ตำรวจ- เมียอดีต สส.ชื่อดังเขตหลักสี่

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำป้ายไวนิล ระบุ แผนผังที่กองบัญชาการตำรวจภูธร 9 และอัยการภาค 9 ที่ตั้งข้อสังเกตว่าร่วมกันวิ่งเต้นล้มคดี รวมทั้งแผนผังเส้นทางการเงินของผู้ที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งพบว่ามี สส.สงขลาเขต 1 พรรคพลังประชารัฐ เป็นเจ้าของเว็บไซต์ดังกล่าวร่วมกับครอบครัว และมีการโอนเงิน และมีเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งเป็นตำรวจหลายสังกัดรวมกว่า 100 นาย โดยระดับสูงสุด คือรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 รองผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค4 นอกจากนี้ ยังมีชุดอัยการภาค 9 ที่เป็นชุดคู่กรณีกับ เสี่ยแป้ง เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย รวมถึงภรรยาของ อดีต สส.กรุงเทพมหานคร เขตหลักสี่ พรรคพลังประชารัฐ, และ สส.สงขลา เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งเจ้าของเว็บรายอื่น โดยพบเส้นทางการเงินมากกว่าพันล้านบาท

โดยคดีดังกล่าวสืบเนื่องจากพลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ หัวหน้าชุด  pct 4 ได้นำกำลังตำรวจ pct เข้าจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายเว็บไซต์พนันออนไลน์ 45 รายในพื้นที่จังหวัดสงขลา และคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ดำเนินคดี ต่อมาพนักงานสอบสวนและอัยการได้มีความเห็นสั่งฟ้อง ขณะนี้คดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของชั้นศาล

ต่อมา ตำรวจได้ขยายผลพบเครือข่ายอีกจำนวนมาก โดยพบว่าหนึ่งในนั้น คือ นายชนนพัฒฐ์ สส.เขต 1 สงขลา พรรคพลังประชารัฐ และนายณัฐวุฒิ ถูกดำเนินคดีในข้อหาเปิดเว็บพนันออนไลน์และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมฯ ซึ่งพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องทั้ง 2 คน แต่อัยการสั่งไม่ฟ้องนายชนนพัฒฐ์ ขณะที่รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ก็ไม่มีความเห็นแย้ง จึงทำให้คดีนี้ตกไป

นอกจากนี้ ยังได้มีการขยายผลเป็นคดีฟอกเงิน โดยพนักงานสอบสวนได้มีความเห็นสั่งฟ้องนายชนนพัฒฐ์ กับพวกรวม 2 คน แต่อัยการสั่งไม่ฟ้องทั้งคู่ ซึ่งในคดีนี้ผู้บังคับบัญชาตำรวจภูธรภาค 9 ได้มีความเห็นแย้ง ทำให้สำนวนคดีดังกล่าวถูกส่งไปที่อัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาในเรื่องดังกล่าว

ต่อมาชุด pct 4 ยังรวบรวมหลักฐานในคดีดังกล่าว ให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่เพื่อให้ดำเนินคดีในความผิดฐานเปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์และ พ.ร.บ.คอมฯ กับนายชนนพัฒฐ์และนายณัฐวุฒิ  ซึ่งพนักงานสอบสวนสั่งฟ้องเพียง นายณัฐวุฒิ เพียงรายเดียว

จึงมาขอให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรื้อคดีดังกล่าว และให้ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี  (สอท.) รับผิดชอบการสืบสวนสอบสวนทั้งหมด

โดยในวันจันทร์นี้ นายอัจฉริยะ จะเดินทางไปที่อัยการสูงสุดเพื่อเรียกร้องให้อัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้องในคดีดังกล่าว เนื่องจากมองว่ามีพยานหลักฐานที่ครบถ้วนสามารถสั่งฟ้องผู้ต้องหาในคดีได้ทั้งหมด พร้อมเรียกร้องให้นายชัยชนะ เดชเดโช ประธานคณะกรรมาธิการตำรวจ ปลดนายชนนพัฒฐ์ออกจาก การเป็นรองประธานคณะกรรมาธิการตำรวจด้วย.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส