“ชัยชนะ”เผย ปชป. พร้อมสับงบฯ 67 เตือน นำอดีตนายกฯปู กลับ อายุรบ.จะสั้น

3 ม.ค. 67

ชัยชนะ เผย ปชป. พร้อมทำหน้าที่ ฝ่ายค้านมืออาชีพ อภิปรายงบ 67 โวย ให้เวลาศึกษาข้อมูลอภิปรายน้อย ระบุเป็นธรรมดาของรัฐบาลศรีธนญชัย -รอ รพ.ตร.-ราชทัณฑ์ ตอบรับหนังสือ ตรวจชั้น14 เตือนนำยิ่งลักษณ์กลับมาในวิธีพิเศษ อายุรัฐบาลสั้น-ม็อบลงถนนแน่

นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรค ปชป. บอกการเตรียมความพร้อมในการอภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท ว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้โควต้ามา 200 นาที ใน 3 วัน ได้เตรียมผู้อภิปรายไว้ทั้งหมด 15 คน ซึ่งวันนี้จะเป็นการอภิปรายในภาพรวม เตรียมไว้ 5 คน ประกอบด้วย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ /นายสรรเพชญ บุญญามณี/ นายยุทธการ รัตนมาศ / และตนเอง

ส่วนวันพรุ่งนี้จะเป็นการอภิปรายในเรื่องทรัพยากรสิ่งแวดล้อม เกษตร ก็ได้เตรียมคนอภิปรายไว้ ส่วนวันสุดท้ายเรื่องสตรี และเรื่องท้องถิ่น และการสรุปภาพรวมจะมี นายระมวล พงศ์ถาวราเดช เป็นคนสรุป

ทั้งนี้มองว่า งบประมาณปีนี้ อยู่ที่ 3.48 ล้านล้าน เพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา 2.95แสนล้านบาท ก็ต้องมองว่าสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น เป็นงบกลาง 16,000 ล้านบาท และที่สำคัญจะเห็นได้ว่าการทำงบประมาณของรัฐบาลชุดนี้ ที่เคยประกาศหาเสียงไว้กับประชาชน ทั้งดิจิตอลวอลเล็ต และซอฟพาวเวอร์ ที่รัฐบาลบอกว่าจะเร่งดำเนินการ แต่ไม่มีอยู่ในแผนงบประมาณ ปี 67 ซึ่งทำให้เห็นได้ชัดว่า รัฐบาลไม่มีความจริงใจกับประชาชนในสิ่งที่ประกาศไว้กับประชาชน

ส่วนกรณีที่อยากเห็น ฟอร์ม ปชป.เป็นฝ่ายค้านมืออาชีพนั้น นายชัยชนะ ระบุว่า ที่ผ่านมาประชาธิปัตย์ทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นส่วนงานสภาหรืองานกรรมาธิการ ดังนั้นการอภิปรายงบประมาณ เป็นการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล และชี้ช่องให้เห็นว่า จุดไหนที่เป็นจุดอ่อนจุดไหนที่รัฐบาลไม่จริงใจกับประชาชน ส่วนการทำหน้าที่ฝ่ายค้ายในการกระชากการทุจริตคอรัปชั่นของรัฐบาลขึ้นอยู่กับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

โดยวันนี้ตนอยากจะฝากไปถึงกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ ที่ผ่านท้องถิ่นแต่ละปี เดิมที่ระเบียบ พรบ.การเลือกตั้งท้องถิ่น ต้องอุดหนุนให้ได้ 35% แต่วันนี้อุดหนุนได้แค่ 29% ซึ่งยังไม่ถึง 35% และเงินอุดหนุนเฉพาะกิจส่วนท้องถิ่น น่าสงสัยว่ามีงบประมาณ การทำนวัตกรรมเยอะพอสมควร เช่น นวัตกรรมเสาไฟฟ้า ซึ่งตนมองว่า การทำโครงการแบบนี้น่าจะมีการทุจริตคอรัปชั่น จึงต้องมาติดตามว่าการทำโครงการแบบนี้ มีบริษัทที่ผูกขาดหรือไม่ มีนวัตกรรมที่อยู่ในแผนงานกี่บริษัท โดยตนจะติดตามในสภาและในกรรมาธิการงบประมาณอีกครั้งว่าเป็นมาอย่างไร

ส่วนกรณีที่รัฐบาลให้เวลาในการศึกษางบประมาณน้อยเกินไปนั้น มองว่า ชัดเจนอยู่แล้ว เพราะเอกสารในการอภิปรายงบประมาณ ส่วนที่เป็นเอกสารได้รับวันนี้ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับเป็นไฟล์เอกสารการศึกษาข้อมูลจึงเป็นระยะเวลาสั้น จริง ๆ รัฐบาลควรจัดประชุมสัปดาห์ที่สองของปีใหม่ แต่รัฐบาลก็เร่งรีบ ซึ่งการเร่งรีบรีบของรัฐบาล ก็มองว่า เป็นธรรมดาของรัฐบาลศรีธนญชัยที่ไม่มีความจริงใจกับประชาชน ซึ่งเราก็พร้อมทำงานและตรวจสอบอยู่แล้ว

ส่วนกรณีที่ กรรมาธิการตำรวจ เตรียมจะไปชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ นั้น ยืนยันว่า กรรมาธิการจะเดินทางไป ตรวจสอบที่โรงพยาบาลตำรวจตามเดิมในวันที่ 12 มกราคม นี้ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และขณะนี้รอหนังสือตอบกลับของกรมราขทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ เพราะได้ทำหนังสือไปก่อนปีใหม่ ทั้งนี้หากทั้ง 2 หน่วยงานไม่มีการตอบรับ ก็จะต้องชี้แจงเหตุผลให้ประชาชนได้ทราบว่าทำไมถึงไม่ให้ไปทำการตรวจสอบ เพราะวันนี้ โรงพยาบาลตำรวจเองก็ต้องตอบสังคมให้ได้ว่า กล้องวงจรปิดที่ดับทั้งหมดเสียเพราะอะไร ทำไมถึงไม่มีงบประมาณซ่อมแซม

ส่วนกรณี กระแสข่าวที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะเดินทางกลับประเทศไทยนั้น มองว่า เรื่องนี้จะเป็นชนวนเหตุทำให้เห็นว่าสังคมมี 2 มาตรฐาน และทำให้เป็นชนวนเหตุที่ทำให้ก่อม็อบลงถนนได้ และเมื่อไรที่มีการตัดสินเอา นางสาวยิ่งลักษณ์กลับมา โดยใช้วิธีรการพิเศษเหนือนักโทษคนอื่น ก็จะเป็นชนวนเหตุทำให้อายุรัฐบาลสั้นลง

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวการเมือง เป็นกระแส