“ภูมิธรรม” ชี้ยังไม่ถึงเวลาปรับ ครม. ไม่มีอะไรเป็นสัญญาณ  

2 ม.ค. 67

 

“ภูมิธรรม” ชี้ยังไม่ถึงเวลาปรับ ครม. เผยยุทธศาสตร์การเดิน 3 ขา “พรรค-สภาฯ –รัฐบาล” ทำงานเพื่อประชาชน เดินหน้าแก้รธน. รอ ครม.ตัดสินใจ 

วันที่ 2 ม.ค. 66 ที่ทำเนียบรัฐบาล นาย ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่า 

ตนได้ยินเรื่องนี้มาตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง ได้ยินมาตลอด แต่ยังไม่เคยเป็นจริง เป็นเรื่องที่มีทัศนะกันไป ไม่ได้มีปัญหาอะไร ตอนนี้ ครม.ไม่ได้คิดเรื่องปรับอะไร เราทำงานกันอย่างเต็มที่ ทุกพรรคไม่มีปัญหานี้ ใน ครม.ไม่เคยได้ยิน มีแต่สื่อถาม 

ยืนยันไม่มีอะไรเป็นสัญญาณเช่นนั้น และยืนยันไม่ทำให้การทำงานวอกแวก เพราะเราอยู่กับความเป็นจริง ความเป็นจริงตอนนี้เราร่วมมือกันดีประสานงานกันดี และเสียงที่ได้ยินเป็นเสียงจากภายนอกที่อาจไม่เข้าใจ สิ่งที่เป็นอยู่ไม่มีปัญหาเราพร้อมชี้แจง 

เมื่อถามว่า ทำไมกระแสข่าวนี้ถึงมีมาตลอด นายภูมิธรรม กล่าวว่า คนที่รู้ดีที่สุดน่าจะเป็นสื่อ เมื่อถามย้ำว่า คิดว่าน.ส.แพทองธาร เหมาะเข้ามาในสถานการณ์ตอนนี้หรือไม่ นายภูมิธรรม ตอบว่า น.ส.แพทองธาร กำลังทำหน้าที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งเรามียุทธศาสตร์การเดิน 3 ขา คือพรรค สภาฯ รัฐบาล ทั้งสามส่วนทำงานเพื่อประชาชน ทุกฝ่ายมีบทบาทหน้าที่ของตัวเอง คิดว่าถ้าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงคือให้มันจบกระบวนการที่ทำงานนี้อยู่ ถ้าสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปถึงจุดนั้นค่อยว่ากันตอนนี้ยังไกลเหมือนกันที่จะไปถึงจุดที่มีการสอบถาม 

สำหรับความคืบหน้าการแก้รัฐธรรมนูญ นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันที่ 25 ธ.ค. เป็นการสรุปของคณะกรรมการศึกษาฯ ตอนนี้กำลังทำเอกสารเพื่อเสนอให้ ครม.พิจารณา อย่างช้าที่สุดในไตรมาสนี้ เร็วที่สุดในเดือน ม.ค.นี้ เพื่อให้ ครม.เป็นผู้ตัดสินใจ หากเห็นชอบก็ส่งต่อไปให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดำเนินการต่อ ไม่ต้องกังวลว่าเราจะไม่เสนอสิ่งที่รับฟังความเห็นมาจากประชาชน ความเห็นที่แตกต่างกัน เราจึงต้องรับฟังให้ได้มากที่สุด 

เมื่อถามถึงคำถามประชามติที่ออกมาจะเปลี่ยนแปลงได้หรือ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้เคาะ คนที่เคาะคือ ครม. การประชุมวันที่ 25 ธ.ค. มติเป็นเอกฉันท์ ทุกคนเห็นว่าสถานการณ์แบบนี้ การทำแบบนี้บนหลักการณ์ที่ว่าให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น และให้สามารถผ่านได้จริง ความแตกต่างที่ฟังมาคือเราจะแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น หรือจะแก้ตามใจตัวเองแล้วไม่สามารถผ่านได้แล้วกลับไปใช้รัฐธรรมนูญ 60 แล้ว อยู่กับสถาณการณ์เดิมๆ เราเลือกเอาอย่างที่ไม่อยู่กับรัฐธรรมนูญแบบเดิม เพื่อให้ทุกอย่างดีขึ้น

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวการเมือง เป็นกระแส