ป้าวัย 58 ปี ฝันเป็นลางว่าหัวขาด ตกบ่ายไฟไหม้บ้านวอด

1 ม.ค. 67

ป้าวัย 58 ปี ฝันเป็นลางว่าหัวขาด ตกบ่ายไฟไหม้บ้าน ลุกลามข้างเคียงวอดหมด รวม 5 หลังรับปีใหม่ คาดว่าไฟฟ้าลัดวงจร 

วันที่ 1 ม.ค. 67 ร.ต.อ.สุขอินทร์ ราจันทร์แก้ว รองสว.สอบสวน สภ.ย่อยนาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชน ลุกลามไปหลายหลัง เหตุเกิดที่บ้านขาว หมู่1 ต.บ้านขาว 

จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.รุ่งศักดิ์ มหาปัญญาวงศ์ รองผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี ปฎิบัติหน้าที่หัวหน้าสถานีนำกำลังตำรวจ พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธุ์ นายกเทศบาลตำบลนาข่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิง อบต.บ้านขาว เทศบาลตำบลนาข่า อบต.นากว้าง อบต.หมูม่น อบต.กุดสระนำรถดับเพลิงไปที่เกิดเหตุ 

ป้าวัย 58 ปี ฝันเป็นลางว่าหัวขาด ตกบ่ายไฟไหม้บ้านวอด

โดยมีชาวบ้านใช้โดรนบินถ่ายภาพมุมสูง และชาวบ้านบางรายก็ถ่ายคลิปตอนไฟลุกไหม้ บางส่วนช่วยกันขนทรัพย์สินออกจากบ้าน

พบเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านสองชั้นไม้ครึ่งปูนเลขที่ 119 และกำลังลุกลามไปติดบ้านใกล้เคียงอีก 4 หลัง ซึ่งเจ้าของบ้าน และชาวบ้านได้มาช่วยกันขนสิ่งของออกจากบ้าน

เนื่องจากทางเข้าเป็นซอยแคบและปลูกบ้านติดกัน ทำให้รถดับเพลิงเข้าไม่ถึงที่เกิดเหตุ ต้องลากสายดับเพลิงผ่านบ้านที่อยู่ใกล้เคียง โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ แต่บ้านทั้ง 5 หลังได้ถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมด 

ป้าวัย 58 ปี ฝันเป็นลางว่าหัวขาด ตกบ่ายไฟไหม้บ้านวอด

นางอรุณี ด่านละหาญ อายุ 58 ปี เจ้าของบ้านต้นเพลิง เล่าว่า บ้านทั้ง5หลังนี้เป็นญาติพี่น้องกัน สร้างบ้านอยู่ติดกัน ก่อนเกิดเหตุตนนั่งทำกับข้าวเย็นอยู่ชั้นล่าง ต่อมาได้ยินเสียงดังเหมือนเคาะไม้อยู่บนชั้น 2 หลายครั้ง ก็ไม่ได้เอะใจ ไม่นานก็เสียงระเบิดขึ้น ตนจึงวิ่งขึ้นไปดูก็พบว่าไฟไหม้ลามชั้นสองหมดแล้ว ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้มาเรียกให้ตนลงมาและแจ้งเจ้าหน้าที่ 

ซึ่งก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 สัปดาห์ตนฝันว่านั่งเล่นกับเพื่อน แต่ว่าตนหัวขาดไม่มีหัว แต่ก็ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง เมื่อคืนนี้ก็ฝันอีกว่าป้าบัวเรียน ซึ่งเป็นญาติเสียชีวิตไปแล้วมาหยอกล้อด้วยการนั่งดักอยู่ทางเดิน พอตนเดินมา ป้าก็จับขาตน พอตื่นมาจึงมาเล่าให้เพื่อนฟังทั้งสองเรื่อง เพื่อนจึงปลอบใจว่าไม่เป็นอะไร ฝันร้ายกลายเป็นดี ตกบ่ายไฟก็ไหม้บ้าน คาดว่าไฟฟ้าลัดวงจร 

ป้าวัย 58 ปี ฝันเป็นลางว่าหัวขาด ตกบ่ายไฟไหม้บ้านวอด

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานเบื้องต้นว่า ไฟฟ้าลัดวงจร แต่จะได้ประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการต่อไป

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส