หนุ่มวัย 18 ปี ไปไม่ถึงปั้มน้ำมัน ควบจยย.พุ่งชนเสากล้องสนามบินดับคาที่    

25 ธ.ค. 66

 

หนุ่มวัย 18 ปี ขี่รถเพื่อนจะไปเติมน้ำมัน แต่ไปไม่ถึงปั้มน้ำมัน เสียหลักชนเสากล้อง CCTV สนามบินสุวรรณภูมิ เสียชีวิตคาที่  

เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 25 ธ.ค. 66 ร.ต.อ.อภิชัย สุโพธิ์ รองสารวัตร สอบสวนของ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตึ๊งว่า มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักชนเสากล้อง CCTV ของสนามบินสุวรรณภูมิ จนเสียชีวิตคาที่ 

เหตุเกิดถนนเลียบรันเวย์สุวรรณภูมิสาย 3 ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จึงประสานแพทย์เวรจากโรงพยาบาลบางพลี เจ้าหน้าที่การท่าเดินทางไปตรวจสอบ

หนุ่มวัย 18 ปี ไปไม่ถึงปั้มน้ำมัน ควบจยย.พุ่งชนเสากล้องสนามบินดับคาที่    

พอไปถึงก็พบว่ากลุ่มวัยรุ่นเกือบสิบคน พากันจอดรถจักรยานยนต์นั่งรอ และยืนมองศพเพื่อนตนเองที่นอนเสียชีวิตอยู่กลางลานหญ้าข้างรันเวย์ 

หนุ่มวัย 18 ปี ไปไม่ถึงปั้มน้ำมัน ควบจยย.พุ่งชนเสากล้องสนามบินดับคาที่    

จากการตรวจสอบสภาพศพพบว่า ข้อมือขวาหัก ขาหักทั้งสองข้าง คอหัก และมีบาดแผลเจาะที่ศีรษะ รวมถึงตามร่างกายหลายแห่ง ทราบชื่อคือ นายเกษทัต (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี ใกล้กันที่โคนเสากล้อง CCTV พบซากรถจักรยานยนต์สีเทาดำ จอดอยู่ในสภาพพังยับเยิน โดยมีเศษชิ้นส่วนตกกระจายเกลื่อนพื้น ส่วนสภาพเสากล้องพบว่าฐานรากถึงกับปูนแตก เนื่องจากแรงกระแทกจากการถูกชนอย่างแรง เจ้าหน้าที่จึงทำบันทึกที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งถ่ายรูปเอาไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นมอบร่างผู้เสียชีวิตส่งไปชันสูตรยังนิติ รพ.รามาสมุทรปราการต่อไป 

หนุ่มวัย 18 ปี ไปไม่ถึงปั้มน้ำมัน ควบจยย.พุ่งชนเสากล้องสนามบินดับคาที่    

สอบถามเพื่อนๆ ของผู้ตาย บอกว่า ผู้ตายและกลุ่มเพื่อนๆ ประมาณ 10 คนพากันมานั่งเล่นริมถนนข้างรันเวย์ ก่อนถึงที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร โดยมานั่งกันตั้งแต่ตี1 ที่ผ่านมา จนกระทั่งกำลังจะพากันแยกย้ายกลับบ้าน ผู้ตายจึงจะขับรถคันเกิดเหตุซึ่งเป็นรถของเพื่อนในกลุ่มจะออกมาเติมน้ำมันให้ พอขับออกมาด้วยความเร็วเห็นอีกครั้งคือไฟท้ายรถพุ่งตกลงข้างทาง จึงพากันมาดู พบว่าชนเสากล้องจนนอนแน่นิ่งเลือดไหลออกตามใบหน้าจำนวนมาก ยืนยันว่าไม่ได้แข่งกันแต่อย่างใด 

หนุ่มวัย 18 ปี ไปไม่ถึงปั้มน้ำมัน ควบจยย.พุ่งชนเสากล้องสนามบินดับคาที่    

ขณะที่มารดาและน้าชายของผู้ตายพอทราบข่าวรีบขี่รถจักรยานยนต์มายังที่เกิดเหตุ พอมาถึงก็เท่าทรุดจับศพร่ำไห้แทบขาดใจ จนเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเข้าดูแลอย่างใกล้ชิด หวั่นเป็นลมช็อกหมดสติไปอีกคน ส่วนผู้ปกครองของเพื่อนเจ้าของรถพอทราบข่าวก็เดินทางมาดูที่เกิดเหตุ เจอสภาพรถก็ถึงกับบ่นอุบถามหาคนรับผิดชอบกับความเสียหายในครั้งนี้ 

ด้านมารดาวัย 33 ปี เปิดใจทั้งน้ำตากับว่า บุตรชายเพิ่งส่งข้อความมาบอกว่า มีเงิน 60 บาท ขอเงินเพิ่ม เพื่อจะซื้อข้าวทาน ตนเองจึงโอนให้เพิ่มไป ไม่คิดว่าจะเป็นเงินค่าข้าวมื้อสุดท้ายที่ลูกขอ ยอมรับว่าที่ผ่านมาลูกชื่นชอบการขับขี่รถจักรยานยนต์ และมักจะขับเร็ว ตนก็เตือนลูกมาตลอด ไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุในวันนี้

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส