จับเครือข่ายตุ๋น ผจก.ธนาคาร จะกู้ 5 แสนเสียรู้มิจฉาชีพกว่า 1.3 ล้านบาท

19 ธ.ค. 66

ตำรวจไซเบอร์จับเพิ่ม เครือข่ายตุ๋น ผู้จัดการธนาคารโดนหลอกมัดจำเงินกู้ เสียรู้ไปกว่า 1.3 ล้านบาท

ช่วงปลายเดือน ส.ค. 65 ที่ผ่านมา ผู้เสียหายเป็นผู้จัดการธนาคารแห่งหนึ่ง ได้กรอกแบบฟอร์มยื่นเรื่องขอกู้เงินจำนวน 500,000 บาท ไว้กับธนาคาร 2 แห่ง เพื่อนำมาช่วยน้าสาวที่ต้องการใช้เงินลงทุน แต่หลังจากผ่านไป 3-4 วัน ได้พบข้อความส่งมาในแอปพลิเคชันไลน์ว่า มีสินเชื่อส่วนบุคคลให้ทำการสมัครลิงก์ ผู้เสียหายจึงเข้าใจว่าเป็นลิงก์ที่มาจากธนาคารจริง จึงกรอกแบบฟอร์มสมัครไปเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2565 พอวันรุ่งขึ้นก็มีการแจ้งผลกลับมาจากมิจฉาชีพว่า ได้รับอนุมัติวงเงิน 500,000 บาท แต่เนื่องจากเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และผู้เสียหายเป็นลูกค้าใหม่ จึงต้องโอนเงินเพื่อประกันวงเงินไว้ 11% ของวงเงินกู้เท่ากับ 55,000 บาท

ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไปยังบัญชีมิจฉาชีพเพื่อเป็นการมัดจำ แต่หลังจากที่โอนไปแล้ว มิจฉาชีพก็ยังบอกให้โอนเงินเพิ่มอีกหลายครั้ง ตั้งแต่ 150,000 - 200,000 บาท โดยอ้างว่าเป็นค่าดำเนินการต่างๆ เช่น ค่าแก้ไขข้อมูล ค่าแก้สัญญา ค่าเอกสาร ค่าเครดิตในระบบ หากไม่โอนเงินตามที่แจ้ง จะไม่สามารถถอนเงินทั้งหมดได้ โดยครั้งสุดท้าย มิจฉาชีพแจ้งว่าบัญชีโดนระงับ ต้องโอนเงินเพื่อทำการปลดล็อกบัญชี อีก 350,000 บาท

รวมโอนเงินไปทั้งหมด 7 ครั้ง รวมทั้งสิ้นประมาณ 1,360,000 บาท

ผู้เสียหายไม่คิดว่าตนจะถูกหลอกเนื่องจากตนเองเป็นผู้จัดการธนาคาร อีกทั้งมิจฉาชีพยังปลอมหลักฐาน และเอกสารที่น่าเชื่อถือ ทำให้ตกเป็นเหยื่อ เมื่อรู้ตัวจึงได้เข้าร้องเรียนกับทนายชื่อดังท่านหนึ่ง พร้อมได้แจ้งความผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ www.thaipoliceonline.go.th

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด ทำการสืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าวจนสามารถออกหมายจับและจับตัวผู้กระทำผิดของเครือข่ายดังกล่าวไปได้แล้วหลายราย

กระทั่งช่วงเย็นของวันที่ วันนี้ 18 ธ.ค.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สอท.5 ได้นำหมายจับศาลอาญา

เข้าจับกุมนายอภิชาติ อายุ 42 ปี ชาวลพบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการดังกล่าว ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” โดยสามารถควบคุมตัวได้บริเวณริมถนนในพื้นที่ ม.2 ต.บ่อทอง อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี

สอบถามเบื้องต้นเจ้าตัวรับว่าได้รับจ้างเปิดบัญชีไปในราคา 500 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส