คนแห่ไว้อาลัย หมอเชอรี่ ถูกอดีตสามีจ่าทหารจ่อยิงดับ ทิ้งลูก 2 คนกำพร้า ด้านพ่อเผยลูกเขยชอบดื่มสุราเมาทะเลาะประจำ ขู่ฆ่าทุกวัน
วันที่ 18 ธ.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า จ.ส.อ.อัครพงษ์ มั่นเจริญ หรือจ่าบอล อายุ 30 ปีทหารสังกัด พล.ร.4 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช กองทัพภาคที่ 3 จ่อยิง น.ส.ชลธิชา ชื่นวันทา อายุ 34 ปี ผอ.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านแหลมครก อดีตภรรยาที่เพิ่งหย่าร้างกันได้เพียง 3 เดือน ทิ้งลูก 2 คนวัย 14 ปี และ 4 ขวบต้องกำพร้า ก่อนที่จะปลิดชีพตายตาม
ล่าสุดวันที่ 18 ธ.ค. 66 ญาติทั้ง 2 ครอบครัว ได้รับร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายไปตั้งสวดพระอภิธรรม โดยร่าง จ.ส.อ.อัครพงษ์ หรือจ่าบอล ตั้งสวดที่วัดมหาวนาราม (มะขามเตี้ย) ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ส่วนร่างของ น.ส.ชลธิชา หรือ หมอเชอรี่ ตั้งสวดที่วัดคูหาสวรรค์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก
โดยหลังเกิดเหตุผู้ที่รู้จักมักคุ้นกับหมอเชอรี่ได้โพสต์ข้อความไว้อาลัยกับการจากไปของหมอเชอรี่ พร้อมเปิดเผยว่าคุณหมอเป็นคนน่ารัก นิสัยดี แต่ทราบมาว่ามักจะมีปัญหากับสามีบ่อยครั้ง ซึ่งตรงกับหน้าเฟซบุ๊กของคุณหมอเชอรี่มักจะโพสต์ตัดพ้อชีวิตเมื่อ 5 วันก่อน ได้โพสต์ว่า “เหนื่อยว่ะ” และ 4วันก่อนได้โพสต์ภาพโทรศัพท์มือถือที่หน้าจอแตก พร้อมแคปชั่นว่า “หากกูตายไป รู้ไว้เลยนะไอ้บอลเป็นคนทำ” และแคปชั่นจอดำข้อความว่า “เคยบอกว่าไหวนะ แต่ตอนนี้ไม่สู้แล้วนะ การจากตายน่าจะดีที่สุด” และ 1วันก่อนเกิดเหตุได้โพสต์แคปชั่นขึ้นจอดำข้อความว่า “อาการตอนนี้” ที่ผ่านมามีแต่คนมาให้กำลังใจหมอเชอรี่เสมอ
ด้านนายเชาวพัน วันทา อายุ 80 ปี หรือ แดง คุณพ่อของหมอเชอรี่ เปิดเผยว่า ตนมีลูก 2 คน หมอเชอรี่เป็นลูกสาวคนเล็ก 2 คนเขาคบกันมานาน 10 กว่าปีตั้งแต่สมัยเรียนจนแต่งงานมีลูกด้วยกัน 2 คน ปกติตนเองก็พักอยู่ที่บ้านหลังเกิดเหตุกับลูกสาว แต่เนื่องจากทั้งสองคนมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อยครั้ง ตนจึงตัดสินใจย้ายไปเช่าบ้านอยู่ใกล้ๆ กันอยู่อีกฟากฝั่งของถนน ย้ายไปได้ประมาณ 5–6 วันแล้ว ทุกวันนี้ก็ยังจัดของอะไรไม่เสร็จด้วยซ้ำ
พ่อแดง เล่าต่อว่า เหตุเกิดเมื่อวานตนก็ไม่รู้เรื่อง ตนมาทราบเหตุอีกครั้งเมื่อประมาณ 5 ทุ่มของเมื่อคืน (17 ธ.ค.66) รีบมาดูที่เกิดเหตุก็ไม่เห็นแม้แต่ศพของบุตรสาว ตำรวจเป็นคนแจ้งให้ทราบ รู้สึกเสียใจมากที่สุดท้ายเรื่องต้องจบลงแบบนี้
ส่วนร่างของหมอเชอรี่บุตรสาว ตนจะนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลสวดอภิธรรมศพที่วัดคูหาสวรรค์ เพียงศพเดียวเท่านั้น สำหรับหลานทั้งสองคนของลูกสาวตนเองกับภร ตนจะเป็นคนเลี้ยงดูกันเอง ปกติลูกเขยจะทะเลาะกับลูกสาวบ่อยมาก แถมขู่ว่าจะทำร้ายลูกสาว รวมทั้งตนและครอบครัวด้วย เมาเหล้าทุกวันจนลูกสาวต้องหย่าร้างกัน ส่วนตนเองก็ต้องออกไปเช่าบ้านอยู่ ส่วนลูกสาวก็ยังคงแวะเวียนกลับไปดูแลลูกจนมาเกิดเหตุดังกล่าว
