หมอแล็บ เผยภาพ ปอดหมอกฤตไท หายไปครึ่ง ย้ำ PM 2.5 เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งปอด

13 ธ.ค. 66

หมอแล็บ เผยภาพ ปอดหมอกฤตไท ข้างขวาหายไปครึ่ง ย้ำ PM 2.5 เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งปอด ซ้ำร้ายสามารถเหนี่ยวนำให้เป็นมะเร็งชนิดอื่น ๆ ได้อีก

วันที่ 13 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเฟซบุ๊กเพจ หมอแล็บแพนด้า ของ ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ชื่อดัง ได้โพสต์ภาพภาพเอกซเรย์ปอดของ นพ.กฤตไท ธนสมบัติกุล เจ้าของเพจสู้ดิวะ ซึ่งเสียชีวิตจากโรคมะเร็งปอดระยะ ที่ 4 ซึ่งคาดว่าสาเหตมาจาก PM 2.5 เพราะคุณหมอกฤตไท มีสขภาพร่างกายที่แข็งแรง และไม่สูบบุหรี่

หมอแล็บแพนด้า ระบุข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กว่า จำได้มั้ยครับ หมอเคยโพสต์เตือนเรื่องมลพิษทางอากาศ และ PM 2.5 ซึ่งตอนนั้นหมอเคยตั้งคำถามเรื่องอากาศที่เราหายใจเข้าไปว่าไม่มีจัดลำดับความสำคัญ หรือให้น้ำหนักกับการแก้ไขปัญหาที่แหล่งกำเนิดของ PM2.5 อย่างจริงจังมากพอ ต้องมีหน่วยงานขึ้นมาเพื่อร่วมมือกันแก้ปัญหานี้ คนเก่งๆในประเทศเรามีเยอะแยะ งบประมาณเราก็มี นักการเมืองก็มี นักวิชาการก็มี 

ประเทศไทยก็ยังติดอันดับปัญหาฝุ่นในระดับโลกติดต่อมาหลายปี ยังไม่เห็นความชัดเจนในการหาต้นตอของปัญหาและลงลึกถึงสาเหตุและแหล่งกำเนิดหลักของฝุ่น PM2.5 เพื่อแก้รากเหง้าปัญหาอย่างตรงจุดและยั่งยืน หมอแกเคยว่าไว้แบบนี้ 

วันนี้ก็ยังไม่มีอะไรเป็นรูปธรรมเหมือนเดิมครับ พอเช้าขึ้นมาหลายคนยังโพสต์ภาพฝุ่นหนาอย่างกะหมอก เราทุกคนรู้ว่าฝุ่นพิษ PM 2.5 มันคือฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน มีผลเสียต่อสุขภาพอย่างมาก ซึ่งอยู่คู่กับประเทศไทยมาหลายปี และมันจะมาเป็นฤดูกาล ตั้งแต่หน้าหนาวยาวข้ามปีไปหน้าร้อน

ความร้ายกาจของ PM 2.5 คือ มันไม่ได้มาตัวเปล่า แต่ดันเอาเพื่อนอย่าง สารปรอท แคดเมียม โลหะหนักอื่นๆ และพวกสารก่อมะเร็งอีกมากมายติดมาด้วย 

PM 2.5 สามารถทำให้เราเสี่ยงเป็นมะเร็งปอดได้จริง ซ้ำร้ายยังสามารถเหนี่ยวนำให้เป็นมะเร็งชนิดอื่นๆได้อีกด้วยนะครับ 

ป้องกันตัวเองไว้ก่อนดีสุดนะครับ เพราะตอนนี้ปัญหาฝุ่นยังคงมีอยู่ พอถึงจุดที่เราป่วยเข้าจริงๆ เงินทองอะไรทั้งหลายก็ไม่มีค่า การได้มีชีวิต ใช้ชีวิต และไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ มันคือดีที่สุดแล้ว ตอนนี้ยังเป็นคำถามอยู่ว่า ถึงเวลาที่เราจะช่วยกันแก้ปัญหานี้อย่างจริงจังแล้วหรือยัง

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส