ตาวัยชรา เลี้ยงหลานสาว 5 คน กลัวตายแล้วหลานไม่มีที่อยู่และไม่มีกิน

1 ธ.ค. 66

ตา 70 ปี ลูกชายติดคุก สะใภ้หนี รับจ้างหารายได้เลี้ยงเลี้ยงหลานสาวเพียงลำพัง 5 คน กลัวตายแล้วหลานจะไม่มีกิน ไม่มีที่อยู่

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจาก นายแป สานิพันธ์ อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่134/13 ม.1 ชุมชนพัฒนา ถนนแจ้งสนิท ต.บ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ว่าร่างกายแก่ชราลงทำให้ไม่สามารถรับจ้างหารายได้มาเลี้ยงหลาน 5 คนได้เหมือนในอดีตที่ผ่านมาจึงอยากขอความช่วยเหลือจากผู้มีจิตศรัทธามาช่วยเหลือครอบครัว

ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปที่บ้านของนายแป พบว่าเป็นบ้านไม้ที่เก่าผุพังในชุมชนพัฒนา และบ้านที่สร้างอาศัยอยู่นั้นอยู่ในพื้นที่ของการรถไฟ โดยนายแปอาศัยอยู่กับหลานสาวรวม 5 คนคนโตอายุ 18 ปี ร่างกายไม่แข็งแรง คนที่สองอายุ 14 ปี, คนที่  3เรียนชั้น ป5, คนที่ 4 เรียนชั้น ป2 และ คนที่ 5 เรียนชั้นป.1

นายแปเปิดเผยว่าอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวกับภรรยา และลูกชาย แต่ภรรยาเสียชีวิตไปประมาณ 7 ปีแล้ว ส่วนลูกชายมีภรรยาเป็นชาวลาว มีบุตรด้วยกัน 5 คน ตอนลูกสาวคนที่ 5 อายุ ได้เพียง 3 เดือน ลูกชายก็ถูกจับในคดียาเสพติด ถูกตัดสินจำคุก 8 ปี 6 เดือน ขณะนี้ติดคุกไปแล้ว 7 ปี ส่วนลูกสะใภ้หนีออกจากบ้านไปตั้งแต่คลอดลูกคนที่ 5 แล้วก็ไม่กลับมาอีก

“ผมรับจ้างทุกอย่างเพื่อให้มีรายได้มาเลี้ยงหลาน 5 คน รายได้จากการรับจ้างในวันที่มีคนจ้าง ตกประมาณวันละ 200 บาท หากไม่มีคนจ้างก็ไม่มีรายได้หาเลี้ยงหลานมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ขณะนี้ผมอายุมากขึ้น ร่างกายก็แก่ชรารับจ้างไม่ไหว รายได้ก็ไม่มีจึงได้ไปขอข้าววัดมาให้หลาน ๆ กินกัน โดยอาศัยรายได้จากเงินคนชราที่รัฐบาลให้มาเท่านั้น ส่วนบ้านที่อาศัยอยู่ก็อยู่ในพื้นที่ของการรถไฟ และการรถไฟกำลังให้ออกไปอยู่ที่อื่นเพราะจะเอาที่ดินคืน แต่ไม่รู้จะหาที่อยู่ที่ไหนได้ จะไปอยู่บ้านมั่นคงก็ไม่มีเงินผ่อน จึงยังหาทางออกไม่ได้ว่าจะพาหลานไปอยู่ที่ไหนห่วงหลานทั้ง 5 คนมากเพราะเกรงว่าถ้าตายไปหลานจะอยู่อย่างไร”

นายแป กล่าวอีกว่าขณะที่การเรียนหนังสือของหลานนั้นได้รับการช่วยเหลือค่าเล่าเรียนจากรัฐบาลคนละ 500 บาท ส่วนเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้านักเรียน ต้องหาเงินมาซื้อเอง ทุกวันนี้ตนจึงให้หลานสาวคนโตและคนที่สองหยุดเรียนและให้สมัครเรียนกศน. มีเพียงหลานสาว 3 คน ที่ยังเรียนตามปกติ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ตนหารายได้ไม่ได้ ทำให้หลานต้องอดมื้อกินมื้อ เพราะไม่มีเงินซื้ออาหารมาให้กิน เคยมีหน่วยงานปกครองท้องถิ่นมาช่วยเงิน 5,000บาท ช่วงที่ภรรยาเสียชีวิต แต่ก็ 7 ปี ผ่านมาแล้วหลายปีเงินก็หมดแล้วเคยขอความช่วยเหลือกับหน่วยงานในพื้นที่ แต่ได้รับคำตอบว่าไม่มีงบประมาณมาช่วยเหลือ จึงไม่มีทางออกว่าจะมีรายได้จากที่ไหน ใครจะมาช่วยเหลือได้บ้างจึงขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชนให้ประชาสัมพันธ์ความทุกข์ยากของตนออกไปเผื่อจะมีคนใจบุญมาช่วยเหลือตนกับหลาน 5 คน จะขอบพระคุณเป็นอย่างมาก

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส