แม่แรงงานไทยวัย 85 ยกมือพนมไหว้ขอบคุณ กลุ่มฮามาสปล่อยลูกชาย-ลูกสะใภ้ ถูกจับเป็นตัวประกันนาน 50 วัน
จากกรณีที่ กระทรวงการต่างประเทศแจ้งข่าวดีที่เกี่ยวกับการปล่อยตัวประกันชาวไทยชุดแรก 10 คน เป็นชาย 9 คน หญิง 1 คน เมื่อวานนี้ โดยมีชื่อของ น.ส.ณัฐฐาวรี มูลกัน และนายบุญถม พันธ์ฆ้อง สองสามีภรรยาแรงงานไทยชาวอุดรธานีด้วยนั้น
วันที่ 25 พ.ย. 66 ที่ต.บ้านหินโงม อ.สร้างคอม จ.อุดรธานี นางเขียน พันธ์ฆ้อง อายุ 85 ปี และนางอุไร จันทชาติ อายุ 61 ปี แม่และพี่สาวนั่งอยู่บนเตียงไม้ใต้ถุนบ้าน ตั้งตารอคอยฟังข่าวดี และการกลับมาของลูกชายทุกวันอย่างมีควาหวัง หลังถูกกลุ่มฮามาสบุกเข้าแคมป์คนงาน และถูกจับไปเป็นตัวประกัน พร้อมกับ น.ส.ณัฐฐาวรี มูลกัน อายุ 35 ปี ชาว จ.ขอนแก่น ลูกสะใภ้ ตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 66 จนถึงวันนี้รวม 50 วัน
โดยในวันนี้นางเขียน มีหน้าตายิ้มแย้มสดใสอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมา ได้รับแจ้งข่าวดีจากสถานฑูตไทยในอิสราเอล และหลานชายที่เดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลว่า นายบุญถมและภรรยา พร้อมกับเพื่อนแรงงานชาวไทย รวม 10 คน ถูกกลุ่มฮามาสปล่อยตัวออกมาแล้ว ทำให้นางเขียน และนางอุไร ดีใจจนนอนไม่หลับ เพราะจะได้เห็นหน้าลูกชายกลับมาบ้านแบบยังมีชีวิต หลังไปบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์หลายแห่ง รวมทั้งหมอดูก็บอกว่าลูกชาย และลูกสะใภ้ทั้งสองคนยังปลอดภัยดี
ผู้สื่อข่าวได้นำรูปภาพนายบุญถมและน.ส.ณัฐฐาวรี ที่ถ่ายภาพร่วมกันกับแรงงานชาวไทยที่ถูกปล่อยตัวให้นางอุไรและนางเขียนดู เมื่อนางเขียนได้เห็นภาพก็ชี้เป็นลูกชายและลูกสะใภ้ยืนอยู่ในรูปภาพอย่างถูกต้อง และบอกว่าลูกชายซูบผอมลงเล็กน้อย และมีหนวดเคราเหมือนกับกลุ่มฮามาสเลย พร้อมกับได้ยกมือพนมไหว้ขอบคุณรัฐบาลไทย และอิสราเอล เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องทุกคน รวมทั้งกลุ่มฮามาสที่ปล่อยตัวลูกชายและลูกสะใภ้ออกมาอย่าปลอดภัย
ขณะที่นางอุไรได้แต่งขันธ์ 5 ดอกไม้ธูปเทียนไปไหว้ศาลปู่ตา หรือศาลหลักบ้าน เพื่อบอกกล่าวว่าน้องชายและน้องสะใภ้ถูกปล่อยตัวออกมาแล้ว เมื่อกลับมาถึงบ้านก็จะนำพวงมาลัย 38 พวงที่บนบานเอาไว้ คนละ 19 พวงมาถวายศาลปู่ตา เพื่อแก้บน
