ประวัติ หลวงพ่อพัฒน์ เกจิอาจารย์เมืองนครสวรรค์ เรืองวิทยาคมเพราะศึกษาตั้งแต่เด็ก

ประวัติ หลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน เกจิอาจารย์เมืองนครสวรรค์ เรืองวิทยาคมเพราะศึกษาตั้งแต่เด็ก ลูกศิษย์ลูกหาให้ความเคารพบูชาอย่างสูง

ชีวิตวัยเยาว์ของหลวงพ่อพัฒน์

หลวงพ่อพัฒน์ เกิดเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2465 ที่บ้านสระทะเล ตำบลย่านมัทรี อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ โยมบิดาชื่อพ่อพุฒ โยมมารดาชื่อแม่แก้ว ก้อนจันเทศ ช่วงวัยเด็กครอบครัวอพยพไปทำนาที่บ้านหนองหลวง อ.ท่าตะโก ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ สร้างเสนาสนะให้วัดหนองหลวง บิดาของท่านจึงได้ไปช่วยหลวงพ่อเดิมสร้างวัด และยังร่ำเรียนเขียนอ่านรวมทั้งฝึกหัดท่องคาถาสั้นๆ จากหลวงพ่อเดิม และยังศึกษาภาษาไทย ภาษาขอม จาก หลวงตาน้อย ฝึกหัดนั่งสมาธิกับหลวงพ่ออิน วัดหางน้ำสาคร

เมื่ออายุ 13 ปี ท่านเดินทางกลับมาเรียนหนังสือจนจบชั้น ป.4 ที่วัดสระทะเล อ.พยุหะคีรี โดยไปอยู่กับหลวงลุง ชื่อหมึก ซึ่งเป็นศิษย์ของ หลวงพ่อเทศ วัดสระทะเล ระหว่างที่ท่านไปอยู่ที่วัดหนองหลวงและวัดสระทะเล ท่านได้ศึกษาวิทยาคมต่างๆ จากหลวงพ่อเทศ พออายุครบเกณฑ์ทหารถูกคัดเลือกเข้าไปเป็นทหารกองประจำการ แต่ขณะที่จะหมดวาระปลดจากทหารเกณฑ์กลับ เกิดสงครามมหาเอเชียบูรพา (สงครามโลกครั้งที่ 2) ขึ้นเสียก่อน จึงทำให้ต้องเป็นทหารต่อไปจนอายุ 24 ปี ปลดประจำการเมื่อปี พ.ศ.2489

เริ่มเข้าสู่เส้นทางร่มกาสาวพัสตร์

ท่านเข้าพิธีอุปสมบทเมื่อปี พ.ศ.2489 ที่อุโบสถวัดสระทะเล ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ โดยมี พระธรรมไตรโลกาจารย์ (หลวงพ่อยอด) วัดเขาแก้ว เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการชั้ว วัดสระทะเล เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ปุญญกาโม”

ท่านมุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม เริ่มเรียนนักธรรมชั้นตรีและชั้นโทไปได้สักระยะ เมื่อพบกับหลวงพ่อเดิมที่วัดอินทราราม หลวงพ่อเดิมเริ่มถ่ายสรรพวิชาทั้งกัมมัฏฐานและพุทธาคม โดยให้หลวงพ่อพัฒน์ไปจำวัดอยู่ที่วัดเขาแก้วกับหลวงพ่อกัน ด้วยขณะนั้นวัดอินทรารามกำลังซ่อมสร้างเสนาสนะอยู่ จึงไม่สะดวกในการพำนักจำพรรษา จึงต้องเดินไปเช้าเย็นกลับระหว่าง วัดทั้งสอง เรียนวิชาอยู่เกือบสองพรรษาจึงจบ

หลังจากนั้นท่านได้ออกธุดงค์ไปเรียนวิชาเมตตามหานิยมกับหลวงพ่อชุบ เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง จ.อุตรดิตถ์ จากนั้นท่านได้ขอลากลับวัดสระทะเล แต่หลวงพ่อชุบขอให้ท่านอยู่เป็นเจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุ ทุ่งยั้งแทน เพราะหลวงพ่อชุบจะย้ายไปพัฒนาวัดพระยืน พุทธบาทยุคล ท่านจึงต้องอยู่ดูแลวัดพระบรมธาตุ ทุ่งยั้ง นานถึง 6 ปี ก่อนกลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดสระทะเล

จากนั้นครอบครัวของท่านได้ซื้อที่ดินเพื่อทำนาแล้วย้ายมาอยู่ที่ ต.ธารทหาร อ.หนองบัว จึงอาราธนาให้ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดธารทหาร ท่านจึงย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดธารทหาร (ห้วยด้วน) ตั้งแต่ปี พ.ศ.2513 เป็นต้นมาโดยไม่ย้ายไปอยู่วัดอื่นเลย

วันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ.2564 ท่านได้รับพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ พระครูนิวิฐปุญญากร หรือ “หลวงพ่อพัฒน์ ปุญญกาโม” เป็น “พระราชมงคลวัชราจารย์”

เซียนพระ นักสะสม นิยมวัตถุมงคลหลวงพ่อพัฒน์

หลวงพ่อพัฒน์ เป็นพระเกจิชื่อดัง ญาติโยมต่างเลื่อมใสศรัทธาเพราะท่านปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ มีความเมตตาสูง พุทธศาสนิกชนเดินทางมากราบนมัสการ รับฟังธรรม ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ที่เข้มขลัง เสริมความเป็นสิริมงคลที่วัดอย่างไม่ขาดสาย

หลวงพ่อพัฒน์ เลื่องลือในการสร้างมีดหมอ เพราะท่านรับเอาวิชามีดหมอมาจากทั้งหลวงพ่อเดิม หลวงพ่ออิน และหลวงพ่อโหมด วัดโคกเดื่อ มีดของท่านเป็นที่นิยมและเสาะแสวงหากันเป็นจำนวนมาก ต่อมาลูกศิษย์ได้ขอให้สร้างเหรียญ และพระบูชาขึ้นอีก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำทุนทรัพย์ไปพัฒนาวัด สร้างโรงเรียน สร้างโรงพยาบาล จนเป็นที่รู้จักเคารพศรัทธาและรักเทิดทูนจากชาวบ้าน ข้าราชการ และบุคลากรทางการแพทย์ การศึกษา

วัตถุมงคลของหลวงพ่อพัฒน์ทุกรุ่นเป็นที่ยอมรับของบรรดาเซียนพระและนักสะสม กล่าวได้ว่า หลวงพ่อพัฒน์ เป็นพระเกจิชั้นแนวหน้าที่เวลามีงานพุทธาภิเษกปลุกเสกพระเครื่องรุ่นต่างๆ ต้องได้รับนิมนต์ร่วมพิธีเป็นประจำอย่างขาดมิได้

พระราชมงคลวัชราจารย์ (พัฒน์ ปุญฺญกาโม) ถึงแก่มรณภาพเมื่อวันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 เวลาประมาณ 01.35 น. ณ โรงพยาบาลกรุงเทพ ด้วยอาการอันสงบ สิริอายุ 101 ปี บวช 77 พรรษา