หาวบ่อย เกิดจากอะไร หาวเพราะนอนไม่พอ กับถูกกระตุ้นจากโรคหรือภาวะต่างๆ

23 พ.ย. 66

หาวบ่อย มากกว่า 1 ครั้งในหนึ่งนาที อาจไม่ใช่สัญญาณเตือนของความง่วง อาจเป็นสัญญาณที่ถูกกระตุ้นจากโรคหรือภาวะต่าง ๆ ก็เป็นได้

การหาว คือ ปฏิกิริยาที่ร่างกายมีการอ้าปากและสูดหายใจเข้าลึก อาจเกิดจากกระตุ้นด้วยความเหนื่อยล้า ความง่วง หรือร่างกายต้องการเพิ่มออกซิเจนเพิ่มขึ้นก็จะกระตุ้นด้วยการหาว บางครั้งเราอาจจะหาวขึ้นมาดื้อๆ (ระหว่างที่อ่านคุณอาจอยากหาวก็ได้) เพียงเพราะมีคนพูดขึ้นมา เกี่ยวกับเรื่องของการหาว หรือเห็นใครบางคนกำลังหาวอยู่ ที่เรียกว่า contagious yawn และนั่นอาจเป็นวิธีการสื่อสารทางสังคมตามสัญชาตญาณของมนุษย์

แต่ถ้าในหนึ่งนาทีคุณ หาวบ่อย หรือมากกว่า 1 ครั้ง นั่นก็อาจเป็นสัญญาณที่ร่างกายกับลังสื่อสารให้คุณได้รู้ว่า เราง่วงแล้วนะ และต้องการพักผ่อน และบางครั้งก็อาจเป็นสัญญาณที่ถูกกระตุ้นจากโรคหรือภาวะต่าง ๆ ก็เป็นได้

หาวบ่อยเกิดจากอะไร

อาการ หาวบ่อย เกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้

ความง่วง เหนื่อยล้าจากการนอนหลับไม่เพียงพอ เกิดจากการนอนในระยะเวลาที่สั้นเกินไป หรือเกิดจากการนอนหลับที่ไม่มีคุณภาพ เช่น ความเครียด ความกังวล หรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอในขณะที่นอนหลับ

อาจเป็นสาเหตุของโรคร้ายแรงอื่น ๆ ได้ในอนาคต การนอนหลับไม่เพียงพอสามารถส่งผลอื่น ๆ ต่อร่างกายได้ เช่น ไม่มีสมาธิ ตอบสนองต่อสิ่งต่าง ๆ ช้า รู้สึกอยู่ไม่สุข เซื่องซึม ไม่ต้องการทำอะไร หรือเหนื่อยเพลีย ปวดเมื่อยร่างกาย หากสงสัยว่าตนมีภาวะนี้ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทดสอบการนอนหลับ (sleep test)

ผลข้างเคียงจากยา เช่น กลุ่มยานอนหลับ ยาช่วยคลายกังวล ยาต้านซึมเศร้า ยาแก้ปวดบางชนิด

การหาวมากผิดปกติยังอาจเกิดจากโรคทางกายอื่น ๆ ได้ เช่น

ภาวะเลือดออกบริเวณในหรือรอบ ๆ หัวใจ หรือโรคหัวใจ ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อหัวใจได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ มักมีอาการเจ็บแน่นหน้าอก ปวดร้าวไปแขนหรือคอ หายใจไม่อิ่ม คลื่นไส้ วิงเวียน หน้ามืด

มะเร็งหรือก้อนเนื้อในสมอง เกิดการกดเบียดทำให้เนื้อสมองได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ จึงต้องการการหาวเพื่อเพิ่มออกซิเจนให้ร่างกาย ผู้ป่วยอาจมีอาการร่วมอื่น ๆ เช่น ปวดศีรษะ พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง ชาหรืออ่อนแรงซีกใดซีกหนึ่งของร่างกาย ปัญหาด้านการมองเห็น ปัญหาด้านความจำ เป็นต้น
โรคหลอดเลือดสมอง ทำให้เนื้อสมองได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอเช่นกัน จะมีอาการชา อ่อนแรง ใบหน้าเบี้ยว พูดไม่ชัด เดินเซ มีการมองเห็นผิดปกติ หรือวิงเวียนร่วมด้วย

โรคลมชัก เกิดการนำกระแสประสาทผิดปกติในหลายส่วนหรือทั้งหมดของสมอง ทำให้ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ในบางครั้งกระแสประสาทผิดปกตินี้เกิดในสมองส่วนที่ควบคุมการหาว จึงทำให้เกิดการหาวที่ผิดปกติร่วมด้วยได้
โรคปลอกประสาทอักเสบ (multiple sclerosis) ทำให้เส้นประสาทในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเสียหาย ไม่สามารถควบคุมร่างกายบางส่วนได้ หรืออาจเกิดจากความเหนื่อยเพลียและควบคุมอุณหภูมิร่างกายไม่ได้ ซึ่งพบได้ในผู้ป่วยปลอกประสาทอักเสบ โดยผู้ป่วยมักมีอาการเหนื่อยเพลียมากผิดปกติ ชาหรือรู้สึกเหมือนเข็มทิ่มที่ลำตัว ใบหน้า แขน ขา การมองเห็นผิดปกติ วิงเวียน เดินหรือทรงตัวลำบาก เป็นต้น

ภาวะตับวาย มักพบในรายที่อาการรุนแรงเนื่องจากจะทำให้อ่อนเพลีย มีปัญหาในการนอนหลับ ผู้ป่วยอาจมีอาการร่วมอื่น ๆ เช่น เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน ถ่ายเหลว สับสน รู้สึกง่วงมากในช่วงกลางวัน บวมตามลำตัวหรือแขน ขา
ภาวะร่างกายไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ นักวิทยาศาสตร์พบว่าการหาวเป็นวิธีหนึ่งที่ร่างกายใช้เพื่อควบคุมอุณหภูมิ หากร่างกายไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิของร่างกายได้ เช่น มีโรคประจำตัวบางชนิด การใช้ยาบางชนิด ในผู้สูงอายุ อาจเกิดการหาวผิดปกติเพื่อเป็นการช่วยในการควบคุมอุณหภูมิกายอีกวิธีหนึ่ง

วิธีแก้ไขอาการหาวบ่อยด้วยตัวเอง

  • หายใจลึก ๆ จะช่วยเพิ่มออกซิเจนในร่างกาย สามารถลดการหาวได้ในผู้ที่การหาวเกิดจากร่างกายต้องการออกซิเจน หรือในกรณีหาวติดต่อกับผู้อื่น (contagious yawn)
  • เคลื่อนไหว ขยับร่างกาย การเคลื่อนไหวร่างกายสามารถกระตุ้นระบบประสาทและสมองได้ สามารถลดการหาวในผู้ที่การหาวเกิดจากความเหนื่อยล้า เบื่อ หรือความเครียดได้
  • เพิ่มความเย็นในร่างกาย เช่น การเดินไปยังบริเวณที่อากาศเย็นและถ่ายเท ดื่มน้ำเย็น หรือกินอาหารว่างเย็น ๆ เช่น ผลไม้แช่เย็น
  • ควรพบและปรึกษาแพทย์เมื่อมีการหาวบ่อยมากกว่าปกติและมีอาการอื่นที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน หรืออาการทางกายที่ผิดปกติอื่น ๆ

 ข้อมูลจาก : samitivejhospitals

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส