พลเมืองดีแจ้งพิกัดพบอีกแล้ว ชาย ชาวจีน ใบหน้าบิดเบี้ยวนั่ง ขอทาน ในตลาดแห่งหนึ่ง ย่านลาดกระบัง กัน จอมพลัง ลงพื้นที่ตรวจสอบ
จากกรณีที่ กัน จอมพลัง เดินหน้าต่อเนื่อง ทลายแก๊งขอทานจีน ล่าสุดมีพลเมืองดีแจ้งพิกัดพบ ชายขอทานต้องสงสัยว่าจะเป็นแก๊งเดียวกัน ซึ่งลักษณะตรงกับชายในลิสต์ ของกัน จอมพลัง โดยมีการถ่ายภาพและส่งคลิปมาแจ้งเบาะแส ระบุสถานที่ชัดเจน
เป็นชายเอเชีย ใบหน้าคล้ายโดนน้ำกรด จนตา 1 ข้าง มองไม่เห็น นิ้วมือ กุด นั่งถือแก้วพลาสติก ขอทานอยู่กลางตลาดแห่งหนึ่ง
จากนั้นไม่นานชายคนนี้ก็ลุกขึ้นใส่หมวกแล้วเดิน ถือถุงอาหาร ขวดน้ำในตลาด โดยเดินกะเผกๆและเดินคุยโทรศัพท์ ไปเรื่อยๆก่อนจะเข้าไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อ ขึ้นรถสองแถวกลับไป เหมือนเจ้าตัวเริ่มรู้ทัน จู่ๆก็ลุกขึ้นเดินและใช้โทรศัพท์เหมือนโทรหาใครบางคนให้มารับ แต่คนที่มารับคงเกรงว่าจะถูกจับกุมด้วยจึงไม่ยอมมา สุดท้ายขอทานรายดังกล่าวโบกรถสองแถวขึ้นไปหน้าตาเฉย
ล่าสุด กัน จอมพลัง เดินทางมาพบตำรวจ สน.จรเข้น้อย หลังได้รับเบาะแสจากพลเมืองดี บอกว่า วันนี้ได้นำหลักฐานต่างๆ เข้ามาแจ้งกับทางตำรวจ สน.จรเข้น้อย เพื่อดำเนินการจับกุมเพิ่มเติม ซึ่งรายนี้ถ้าจับกุมได้ถือว่าเป็นขอทานชาวจีนรายที่ 7
ใน 10 เป้าหมาย
นอกจากนี้ กัน จอมพลัง ขอตำหนิเพจดังบางเพจ ที่บอกว่า เรื่องจับขอทานไม่เกี่ยวกับ กัน จอมพลัง เป็นหน้าที่ของ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม.และ พม.ได้ดำเนินการจับกุมก่อนแล้ว ทางกัน จอมพลัง เพิ่งมาตามจับทีหลัง ซึ่งยืนยันว่าตัวเองเป็นคนให้เบาะแสกับเจ้าหน้าที่และพาเจ้าหน้าที่ไปจับ พร้อมทั้งฝากคำถามถามไปถึง นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพราะประเด็นสำคัญหลายประเด็นที่ออกมาให้สัมภาษณ์ว่ากลุ่มขอทานชาวจีนที่ถูกจับกุมได้เป็นพวกที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและพาสปอร์ตหมดอายุ ทั้งที่ตัวเลขในพาสปอร์ต หมดอายุปี 2033 จึงอยากถามกลับว่าท่านรัฐมนตรีฯได้ข้อมูลนี้มาจากไหน เพราะผู้ต้องหาทุกรายที่ถูกจับกุมได้พาสปอร์ตยังไม่หมดอายุ และ ที่ท่านรัฐมนตรีฯบอกว่า ไม่เกี่ยวกับนโยบายฟรีวีซ่า ก็อยากจะบอกว่า จากข้อมูลผู้ต้องหาขอทานชาวจีนที่จับกุมได้พบว่าเข้าออกในช่วงนโยบายฟรีวีซ่าทั้งสิ้น
ส่วนขอทานรายอื่นๆก่อนหน้านี้ จำนวน 6 รายที่จับกุมได้ตอนนี้ผู้ต้องหาถูกคุมตัวอยู่ที่ห้องกักตัวของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและทำการสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งตอนแรกทางผู้ต้องหายังไม่ยอมให้ข้อมูล แต่จนถึงตอนนี้เริ่มพูดให้ข้อมูลเพิ่ม พบความเชื่อมโยงและทำเป็นขบวนการ.
