ช่วย 260 คนไทยหนีสงครามเมียนมา พบส่วนมากรู้ว่าไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์

20 พ.ย. 66

คนไทยกว่า 260 ชีวิต หนีภัยสงครามเมียนมา ข้ามผ่านชายแดนจีนแล้ว ตรวจสอบพบ 70%สมัครใจไปทำงานร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เจ้าหน้าที่เตรียมดำเนินคดี ฐานมีส่วนร่วมในอาชญากรรมข้ามชาติ

วันที่ 19 พ.ย. 66 ทางการเมียนมาได้จัดพาหนะพาคนไทยประมาณ 260 คนที่อยู่ในพื้นที่สู้รบในเมืองเล้าก์ก่ายของประเทศเมียนมา เดินทางข้ามทางด่านชายแดนของประเทศจีน เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. ตามเวลาประเทศไทยเพื่อไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยตามที่ทางรัฐบาลจีนได้จัดเตรียมไว้ให้ ระหว่างรอทางการไทยไปรับตัวกลับประเทศโดยจากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่าส่วนใหญ่เป็นผู้สมัครใจไปทำงานผิดกฏหมายด้วยตนเอง ซื่งจะต้องนำตัวกลับมาเพื่อมาเข้าสู่กระบวนการทางกฏหมายของประเทศไทย

ในการช่วยเหลือในครั้งนี้เป็นความพยายามของกระทรวงการต่างประเทศที่ประสานขอความช่วยเหลือผ่านหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภายในประเทศไทยเอง ตลอดจนหน่วยงานระหว่างประเทศของทั้งเมียนมาและจีนซึ่งในการเคลื่อนย้ายคนไทยทั้งหมดเพื่อเดินทางกลับประเทศได้มีความพยายามเคลื่อนย้ายตั้งแต่วันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา พร้อม ๆ กับการปล่อยตัว 41 คนไทยกลับไทยผ่านทางอ.แม่สาย จ.เชียงราย แต่ในขั้นตอนเคลื่อนย้ายกลุ่มคนไทย ทั้ง 260 คนนี้ กลับเจอกับปัญหาเพราะด่านหนานซานพื้นที่ชายแดนเขตติดต่อประเทศเมียนมาและประเทศจีนไม่เปิดด่าน คณะเดินทางจึงต้องเดินทางกลับที่พักและออกเดินทางใหม่

จากข้อมูลเบื้องต้นทราบว่าคนไทยทั้งหมดนั้นมีทั้งผู้ที่สมัครใจไปทำงานโดยที่รู้อยู่แล้วว่าเป็นงานในขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และมีบางส่วนที่ตกเป็นเหยื่อถูกหลอกจริง ซึ่งขณะนี้ทางการไทยมีรายชื่อทั้งหมดแล้ว เมื่อเดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้วจะมีประสานกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และกระทรวงแรงงานดำเนินการสอบปากคำ และร่วมกันคัดแยกโดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่สมัครใจไปทำงานซึ่งพบว่ามีอยู่กว่า 70% เพราะมีรายชื่อว่าเคยถูกช่วยเหลือออกมาจากกัมพูชามาแล้วก่อนหน้านี้ และกลุ่มที่ 2 คือกลุ่มที่ถูกหลอกจริง ๆ ซึ่งเป็นรายชื่อใหม่มีเพียง 30% เท่านั้น โดยผู้ที่สมัครใจไปจะถูกแจ้งข้อกล่าวหาตามความผิดพระราชบัญญัติองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติฐานมีส่วนในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติซึ่งมีอัตราโทษสูงสุดและความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนเพื่อไม่ให้บุคคลเหล่านี้กลับไปก่อคดีอีกและต้องมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการหลอกลวงคนไทยด้วยส่วนกลุ่มคนที่ตกเป็นเหยื่อนั้นจะได้รับการเยียวยาตามกฎหมายต่อไป

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส