ลูกสาวกำนันดัง อ.กระบุรี จ.ระนอง เข้ามอบตัว เอี่ยวเครือข่ายยาเสพติด – ธุรกิจเถื่อนตามแนวชายแดน
ลูกสาวกำนันคนดังอ.กระบุรี จ.ระนองหลังถูกออกหมายจับตกเป็นผู้ต้องหาเชื่อว่าได้กระทำความผิดฐานฟอกเงินและสนับสนุนการฟอกเงินที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายค้ายาเสพติดส่งออกรถจักรยานยนต์ข้ามแดนผิดกฎหมายรวมทั้งลักลอบนำยางพาราเถื่อนเข้าประเทศตามตะเข็บแนวชายแดนแม่น้ำกระบุรีล่าสุดเดินทางเข้ามอบตัวต่อตำรวจระนองแล้ว
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 ความคืบหน้าการปราบปรามผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จังหวัดระนอง ล่าสุดพล.ต.ต.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา ผบก.ภ.จว.ระนอง ได้รับรายงานจาก พ.ต.ท.ปรีชา กรรมแต่ง สว.สส.สภ.ละอุ่น ว่า น.ส.นภสร อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับดคีฟอกเงินและสนับสนุนการฟอกเงินที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดการ ลักลอบส่งรถออกนอกราชอาณาจักร โดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร และการลักลอบนำเข้ายางพาราผิดกฎหมายเข้าประเทศในพื้นที่ อ.กระบุรี เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ล่าสุดเดินทางเข้ามอบตัวต่อร้อยเวรพนักงานสอบสวน สภ.ละอุ่น อ.ละอุ่น จ.ระนอง เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
ต่อมาเมื่อเวลา 11.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ละอุ่น ได้นำตัว น.ส.นภสรฯ ลูกสาวกำนันดัง อ.กระบุรี เข้าทำการสอบสวนปากคำเพิ่มเติมที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดระนอง โดยมี พ.ต.อ.วัฒนา เบ้าศรี ผกก.สืบสวน.ภ.จว.ระนอง มายืนรอรับตัวโดย น.ส.นภสรฯ แต่งกายมิดชิดสวมหมวกแก๊ป ใส่แว่นตาดำ คาดหน้ากากอนามัย สวมเสื้อแขนยาวสีดำกางเกงยีนส์สีน้ำเงินเดินทางมาพร้อมพี่สาว และทนายความ ก่อนจะเดินทางเข้าไปในห้องศูนย์ปฎิบัติการสืบสวนซึ่งมี พ.ต.อ.เธียร บาลทิพย์ รองผบก.ภ.จว.ระนอง ร่วมสอบสวน
เบื้องต้น น.ส.นภสร ให้การปฎิเสธทุกข้อกล่าวหาส่วนที่ปรากฏตามหลักฐานมีการโอนเงินกันระหว่างผู้กระทำความผิดที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ เป็นเพียงการกู้เงินยืมเงินเท่านั้น จากนั้น
หลังการสอบปากคำตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลจังหวัดระนอง โดยทนายความและญาติผู้ต้องหาได้ยื่นขอประกันตัว น.ส.นภสร ด้วยวงเงิน 200,000 บาท ก่อนที่ศาลจังหวัดระนองจะมีคำสั่งให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาชั่วคราว แต่มีเงื่อนไขห้ามไปยุ่งเกี่ยวกับพยานในคดีโดยเด็ดขาด
พล.ต.ต.เชิดพงษ์ กล่าวว่า น.ส.นภสร ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ผู้ถูกออกหมายจับฐานฟอกเงินและสนับสนุนการฟอกเงินของศาลจังหวัดระนองที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดการลักลอบส่งรถออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร และการลักลอบนำเข้ายางพาราผิดกฎหมาย ที่มีการจับกุมผู้ต้องหาไปและยึดทรัพย์ในหลายจังหวัดก่อนหน้านี้ซึ่งเครือข่ายดังกล่าวมีความผิดมูลฐาน 7 คดีบุคคลที่เกี่ยวข้อง 65 คน จับกุมตัวได้แล้วกว่า 50 คนรวมมูลค่าทรัพย์สินที่อายัดไว้ตรวจสอบมากกว่า 295 ล้านบาท
