มท.1 จวก ผับเถื่อนเชียงใหม่ ปล่อยเด็กเข้าใช้บริการนับร้อย ดีที่ไม่เจอยาเสพติด คาดรู้ข่าวก่อน ยาเลยไม่เข้า ยันไม่กระทบมาตรการเปิดผับตี 4
นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึง ปฏิบัติการป่าช้าแตกจังหวัดเชียงใหม่ คืนนี้ ที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองบูรณาการกับปกครองจังหวัด เชียงใหม่ สนธิกำลัง จับกุมสถานบริการ เลอเนิร์ฟผับ ว่า ไม่รู้ใครตั้งชื่อปฏิบัติการ ซึ่งตนไม่ได้ตั้งแต่เชื่อว่าเกิดในวันฮาโลวีน ซึ่งตนได้ย้ำในช่วงกลางวันไปแล้วว่าสามารถเปิดสถานบริการได้ ไม่มีปัญหา แต่ขอให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย
ซึ่งผู้ประกอบการรายนี้ พบการกระทำความผิด 7 ข้อกล่าวหา คือ
1. ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต
2.จำหน่ายสุราให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี
3.จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี
4.จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด
5.ยุยงส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร
6.โฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือแสดงชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรงหรือโดยอ้อม
7.ดัดแปลงอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น
ตนมองว่าแค่เจอข้อกล่าวหาแรกคือการเปิดผับโดยไม่ได้รับใบอนุญาตก็ไม่ต้องไปดูข้ออื่นแล้ว โชคดีที่ไม่เจอยาเสพติด เพราะอาจจะรู้ข่าวก่อน ยาเสพติดก็เลยไม่เข้า ซึ่งหากผู้ประกอบการทำถูกกฎหมายก็ไม่ต้องกังวลว่าจะปิดกี่โมง และยืนยันว่าสิ่งที่กรมการปกครองเข้าไปดำเนินการ คือการต้องการจัดระเบียบสังคม และนโยบายของกระทรวงมหาดไทย คือต้องการส่งเสริมนักท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ไม่ใช่สนับสนุนให้เด็กเยาวชน เข้าไปใช้บริการอย่างผิดกฎหมาย อย่างรายนี้ ก่อตั้ง 100 กว่าคน เที่ยงคืนตีหนึ่งก็ต้องนอนแล้วเพราะเช้าต้องไป เรียนหนังสือ แต่ก็ยังมีผู้ประกอบการใช้ช่องโหว่ โดยไม่คำนึงว่าตัวกฎหมายมีกำหนดกรอบอายุในการเข้าใช้บริการ
ส่วนกังวลหรือไม่ว่า จะกระทบต่อมาตรการโซนนิ่งขยายระยะเวลาเปิดผับถึงตีสี่ นายอนุทินย้ำว่า ไม่หรอก เพราะถ้าทำตามกฏหมาย ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะกระทบกับอะไร และถ้าทุกคนทำตามกฏหมายกระทรวงมหาดไทย ก็ไม่จำเป็นต้องทำให้ใครเดือดร้อน ทำอะไรให้รบกวนวิถีชีวิตประชาชน