บุกค้น17จุด ทลายแก๊งไนจีเรีย ค้ายาข้ามชาติ เตือนหญิงไทยระวังตกเป็นเหยื่อ

27 ต.ค. 66

 

บช.ปส. บุกค้น17จุด ทลายแก๊งไนจีเรีย ค้ายาข้ามชาติ พบมีเงินหมุนเวียน100ล้าน เตือนหญิงไทย ระวังตกเป็นเหยื่อ สุดแสบเนียนเอายาอัดแท่งเป็นชอล์ค 

วันที่ 27 ต.ค. 66 พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. รรท.ผบช.ปส. พ.ต.อ.นพสิทธิ์ มิตรภักดี รอง ผบก.รรท.ผบก.ปส.1 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดได้ผู้ต้องหาทั้งหมด 8 คน เป็นหญิงไทยจำนวน 3 คน เป็นชาวไนจีเรีย 4 คน และชาวไอเวอรี่โคสต์ 1 คน พร้อมของกลาง รถยนต์ 4 คัน ทองรูปพรรณน้ำหนัก 17 บาท เฮโรอีน 350 กรัม โคเคอีน 49 กรัม และไอซ์ 6 กรัมรวมมูลค่า 2.5 ล้านบาท 

พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับการจับกุมครั้งนี้ทาง กก.2 บก.ปส.1 บช.ปส. หรือหน่วยนิลพัท สำนักงาน ป.ป.ส. และ เจ้าหน้าที่หน่วยปราบปรามยาเสพติดสหรัฐหรือ DEA ประจำประเทศไทย สืบทราบว่ามีกลุ่มเครือข่ายนักค้ายาเสพติดผิวสีชาวไนจีเรีย ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดในประเทศไทย 

โดยทราบว่าตัวการใหญ่ชื่อนายเอ็ม พักอาศัยอยู่ที่ประเทศไนจีเรียได้สั่งการให้ลูกน้อง คือ นายโจเซฟ หรือ มิกกี้ ชาวไนจีเรีย ที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย ดำเนินการจัดซื้อยาเสพติด โดยนายโจเซฟ จะมีภรรยาชาวไทย ทราบชื่อต่อมา ว่า น.ส.ทัศนีย์ (ขอสงวนนามสกุล)ซึ่งเป็นหนึ่งในสาวไทยที่ถูกจับกุมครั้งนี้ เพื่อใช้ชื่อเปิดบัญชีธนาคาร ในการรับโอนเงินค่ายาเสพติด 

โดยเจ้าหน้าที่พบว่ากลุ่มเครือข่ายดังกล่าวจะจำหน่ายยาเสพติดให้แก่นักท่องเที่ยวตามสถานบันเทิงในพื้นที่กทม.และปริมณฑล โดยยาเสพติดอีกส่วนหนึ่งจะส่งต่อไปยังประเทศที่ 3 ได้แก่ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และไต้หวัน โดยกลุ่มนี้ว่าจ้างโรงกลึงทำเครื่องอัดชอล์ก โดยการเอาโคเคอีนไปผสมกับชอล์กและเบกกิ้งโซดา นำไปอัดเข้าเครื่องอัดชอล์กแท่ง เพื่อลักลอบขนส่งไปจำหน่ายต่างประเทศอีกด้วย 

ทั้งนี้กลุ่มที่เป็นนักค้ายาเสพติดชาวไนจีเรียจากการตรวจสอบมีอยู่ประมาณ 20 คน ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการขยายผลของเจ้าหน้าที่ สำหรับกลุ่มเครือข่ายดังกล่าวจะใช้วิธีการฟอกเงินด้วยการซื้อสินค้า เช่น เสื้อผ้าเด็ก รองเท้า และ ปลาตากแห้ง ส่งกลับไปยังทวีปแอฟริกาผ่านบริษัทขนส่งทั้งในประเทศ และต่างประเทศของกลุ่มคนผิวสีที่มีภรรยา หรือ แฟนเป็นหญิงไทย รับหน้าที่เป็นนอมินีเพื่อทำการฟอกเงิน 

โดย พบว่ากลุ่มดังกล่าวมีการโอนเงิน ซึ่งหมุนเวียนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจำนวนหลายล้านบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการเปิดปฏิบัติการ operation mouse hunt ปิดล้อมตรวจค้นจับกุมผู้ร่วมขบวนการในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑลรวม 17 จุดเพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติดและอายัดทรัพย์สินผู้เกี่ยวข้อง สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 8 คนนำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินคดีต่อไป 

พ.ต.อ.นพสิทธิ์ กล่าวว่า พฤติกรรมของกลุ่มค้ายาเสพติดชาวไนจีเรียจากเดิมที่เคยมีแหล่งกบนานอยู่ในตัวเมืองย่านดาวน์ทาวน์ ตอนนี้ได้ขยายวงมาอยู่บริเวณรอบชานเมืองเพื่อเลี่ยงจุดสนใจ โดยอาศัยคบหากับหญิงชาวไทยที่มีฐานะยากจน และรู้จักผ่านโลกโซเชียล ซึ่งแรกเริ่มจีบกันก็ยังไม่รู้เรื่องยาเสพติด แต่เมื่อคบไปนานวัน ฐานะชีวิตเริ่มดีขึ้น และเมื่อรู้ว่าฝ่ายชายเกี่ยวข้องยาเสพติดก็จะเข้าสู่ร่วมในกระบวนการเครือข่ายยาเสพติดโดยเต็มใจ 

ฝากเตือนประชาชนหากพบเห็นกลุ่มชายผิวดำชาวต่างชาติมาพักอาศัยใกล้บ้านตามหมู่บ้าน มีพฤติกรรมชอบอยู่ลำพังไม่สุงสิงกับใครขอให้แจ้งเตือนกับตำรวจ เพื่อทำการตรวจสอบโดยเฉพาะหญิงไทยควรตรวจสอบให้ดีว่าผู้ชายชาวต่างชาติผิวดำที่มาจีบนั้น เป็นเครือข่ายของขบวนการค้ายาเสพติดหรือไม่เพราะหากถูกจับกุมจะต้องได้รับโทษเทียบเท่ากับผู้ค้ายาเสพติดฐานสมคบการค้ายาเสพติดมีโทษสูงสุดจำคุกตลอดชีวิต และพบว่าเครือข่ายหรือแก๊ง โทษสูงสุดคือประหารชีวิต

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส