กระทรวงการต่างประเทศ เผยส่งข้อความเตือนแรงงานให้กลับไทยไม่ต้องรอค่าแรง

27 ต.ค. 66

กระทรวงการต่างประเทศ ยืนยัน ยอด ตัวประกันไทยใน อิสราเอล มี 18 คน พร้อมส่งข้อความเตือนแรงงานไม่ต้องรอค่าแรง ขอเดินทางกลับเพื่อความปลอดภัย วอนทูตอิสราเอลประจำ UN เคารพผู้เสียชีวิตและครอบครัว หลังนำคลิปเปิดโชว์กลางที่ประชุมสมัชชา ทราบเบื้องต้นไม่ขออนุญาตก่อน

27 ต.ค. 66 นางกาญจนา ภัทรโชติ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล - กาซา และความคืบหน้าภารกิจอพยพคนไทยในอิสราเอล

กระทรวงการต่างประเทศมีประชุมติดตามสถานการณ์ทุกวัน นายกรัฐมนตรีจะร่วมประชุมออนไลน์ให้กำลังใจทูตและแรงงานที่อยู่ที่นั่น

ขณะที่สถานการณ์ฝ่ายต่าง ๆ ได้พยายามคุยกับอิสราเอลให้ชะลอการบุกอย่างเต็มรูปแบบไปก่อนเพื่อคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวประกัน

สำหรับตัวประกันปล่อยออกมาสองระลอก จำนวนสี่คน ซึ่งทุกฝ่ายเรียกร้องให้มีการดูแลความปลอดภัยของตัวประกันและปล่อยตัวประกันที่เหลืออย่างเร็วที่สุด

สำหรับตัวเลขอย่างเป็นทางการเสียชีวิต 33 ราย  บาดเจ็บ 18 ราย อยู่ระหว่างรักษาพยาบาล 5 ราย ถูกจับตัวประกัน 18 ราย

ซึ่งเมื่อวานมีข่าวในสื่อต่างประเทศว่า ผู้ถูกจับกลุ่มมีคนไทยถึง 54 คน ซึ่งได้มีการติดต่อทางการทูตที่อิสราเอล ยืนยันว่าทางการอิสราเอลไม่ทราบแหล่งที่มาของข่าวดังกล่าว และยังขอยืนยันตัวเลขตัวประกันชาวไทยยังคงอยู่ที่ 18 คน ซึ่งหวังว่าคงไม่มีตัวเลขที่เพิ่มขึ้นและทางการไทยยังคงติดตามอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ขอให้วางใจได้

ส่วนการดำเนินงานธุรกิจผู้อพยพ มีการนำร่างผู้เสียชีวิตกลับประเทศไทยแล้ว 15 ราย เที่ยวบินอพยพคนไทยแล้ว 23 เที่ยว ผู้ได้รับการช่วยเหลือผ่านสถานทูต 4,771 คน   ย้ำสำหรับผู้ที่จ่ายค่าตั๋วเครื่องบินเดินทางมาเองสามารถนำเอกสารมาเบิกค่าใช้จ่ายได้ ขณะที่นักศึกษาไทยสถาบัน AICAT เดินทางกลับทั้งหมด 40 คน อีก 75 คน ไม่ประสงค์เดินทางกลับ

ส่วนแรงงานไทยที่ยังยังไม่พร้อมจะกลับและรอค่าแรงอยู่ทางรัฐบาลพยายามส่งข้อความขอให้กลับมาตั้งหลักที่ประเทศไทยเพื่อความปลอดภัย และยังสามารถกลับไปทำงานที่อิสราเอลได้

ส่วนกรณีที่นายกิลาด เออร์ดาน อัครราชทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้นำคลิปที่อ้างว่าแรงงานไทยถูกทำร้าย นั้น นางกาญจนา ระบุว่า การกระทรวงการต่างประเทศและ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ได้ติดตามการประชุมดังกล่าวแล้ว ซึ่งโดยปกติแล้วข้อมูลผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ที่ต้องเคารพต่อผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ  หรือแม้แต่ผู้ที่ถูกจับกุม ไม่ใช่ข้อมูลที่จะต้องนำมาเปิดเผย ควรเห็นใจญาติและครอบครัวด้วย เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นคณะผู้แทนถาวร ณ นครนิวยอร์ก จะมีการติดตามและพิจารณาเรื่องนี้เพราะโดยปกติแล้ว การจะนำเอกสารหรือภาพและคลิปวีดีโอมาแสดงต่อที่ประชุมสมัชชาฯ จะต้องขออนุญาตผ่านฝ่ายเลขานุการก่อน แต่ทราบว่าคลิปดังกล่าวไม่ได้มีการขออนุญาตก่อน จึงจะต้องมีการติดตามประสานงานต่อไป

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม