โชคดีไปรับทัน! แม่มั่นใจ ลูกสาววัย 13 ปี ถูกหญิงแปลกหน้า ป้ายยา  

25 ต.ค. 66

แม่พาลูกสาววัย 13 ปี ขึ้นโรงพัก เข้าแจ้งความตำรวจ มั่นใจลูกสาว ถูกหญิงแปลกหน้า ป้ายยา โชคดีไปรับทัน เชื่อเป็นมิจฉาชีพแก๊งป้ายยาชิงทรัพย์

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 25 ต.ค. 66 ที่ สภ.ปากเกร็ด นางเอ นามสมมติ อายุ 43 ปี เจ้าของธุรกิจส่วนตัว พร้อม ด.ญ.บี นามสมมติ อายุ 13 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งย่านเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 

เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ต.ค. 66 หลังลูกสาวเลิกเรียนจากโรงเรียนได้บอกกับตนว่าจะขอไปเดินซื้อของกับเพื่อนที่ห้างสรรพสินค้า ซึ่งอยู่ภายในเมืองทองธานี และอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียน โดยบอกให้ตนมารับที่บริเวณหน้าห้างดังกล่าวเวลา 17.00 น. เมื่อตนขับรถไปถึงก็เห็นลูกสาวอยู่กับหญิงอายุประมาณ 40-50 ปี อีกฝั่งถนน ก่อนที่ลูกสาวจะวิ่งข้ามถนนมาที่รถ 

หลังจากขึ้นรถมาแล้ว ลูกสาวมีอาการปวดหัวหน้ามืด อาเจียนโดยไม่ทราบสาเหตุ ตอนแรกตนก็คิดว่าลูกสาวไม่สบาย จึงไม่ได้ติดใจอะไร จนเมื่อมาถึงบ้านลูกสาวเริ่มมีอาการดีขึ้น ตนจึงได้สอบถามลูกสาวว่าไปกินอะไรมาถึงได้ไม่สบาย แต่ลูกสาวบอกว่าก่อนหน้านี้ก็ปรกติดี ตอนเดินไปซื้อของที่ห้างกับเพื่อน กระทั่งเพื่อนแยกย้ายกลับไปเหลือลูกสาว รอตนมารับอยู่เพียงลำพัง ก็มีหญิงอายุ ประมาณ 40-50 ปี เดินเข้ามาหากอดมาที่เอวลูกสาว พร้อมกับเอามือมาลูบที่แขน พูดว่าแถวนี้มีวินรถตู้ไหม 

ลูกสาวจึงบอกว่าอยู่ตึกฝั่งตรงข้าม หญิงคนดังกล่าวจึงบอกว่าให้ลูกสาวช่วยพาไปส่ง ซึ่งลูกสาวก็พยายามปฎิเสธ เพราะไม่เคยรู้จักกับหญิงคนดังกล่า แต่ก็ถูกผลักพยายามให้ลูกสาวพาข้ามถนนไปให้ได้ ซึ่งตอนนั้นลูกสาวบอกว่าได้กลิ่นเหม็นฉุนบริเวณแขนที่หญิงคนดังกล่าวจับ จนรู้สึกเวียนหัวมึนหัว และก็เริ่มไม่รู้ตัวว่าพาหญิงคนดังกล่าวข้ามถนนไปตอนไหน โดยหญิงคนดังกล่าวพยายามจะพาลูกสาวขึ้นตึกฝั่งตรงข้ามที่ค่อนข้างมืดและก็เปลี่ยว โชคดีที่ลูกสาวตนหันมาเห็นรถตนจอดรออยู่ฝั่งตรงข้ามจึงรีบวิ่งกลับมาที่รถจนรอดมาได้ ซึ่งตอนนั้นที่ตัวลูกสาวมีของมีค่าคือสร้อยคอทองคำ 1 เส้น และก็โทรศัพท์มือถือ 

หลังลูกสาวอาการเริ่มดีขึ้นและเล่าเรื่องดังกล่าวให้ฟัง ตนจึงได้ให้ลูกสาวลาโรงเรียน 1 วัน ส่วนตนก็หยุดงาน พาลูกสาวเข้ามาแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตรวจสอบหญิงคนดังกล่าว เพราะตนกับลูกสาวมั่นใจว่าหญิงคนดังกล่าวน่าจะเป็นมิจฉาชีพแก๊งป้ายยาชิงทรัพย์อย่างแน่นอน แต่เมื่อมาถึงที่ สภ.ปากเกร็ด เจ้าหน้าที่ตำรวจถามว่าลูกสาวมีร่องรอยการถูกทำร้าย หรือทรัพย์สินสูญหายหรือไม่ ตนจึงตอบไปว่าไม่มี เพราะโชคดีที่ตนไปถึงทันเวลา หากตนไปรับลูกช้า อีกไม่ถึง 10 นาทีก็ไม่รู้ว่าลูกสาวจะเป็นอย่างไรบ้าง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงบอกว่าถ้าจะรับแจ้งความตนต้องพาลูกสาวไปตรวจร่างกายที่ รพ.ก่อน และถ้าผลตรวจร่างกายออกมาว่าไม่มีอะไรผิดปรกติก็ไม่สามารถทำอะไรให้ได้ 

นางเอ กล่าวอีกว่า ตนแค่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตรวจสอบพฤติกรรมของหญิงสาวคนดังกล่าวว่าเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ แต่ตนมั่นใจจึงหยุดงานให้ลูกหยุดเรียนเข้ามาแจ้งความ แต่ถ้าต้องให้ตนพาลูกไปตรวจร่างกายที่ รพ.อีก ตนกับลูกก็คงไม่ทำอะไรแล้ว ซึ่งตนได้ไปสอบถามพ่อค้าแม่ค้าบริเวณดังกล่าวก็พบว่ามีเหตุลักษณะแบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว

advertisement

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส