เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมตัวอดีตพระฤทธิไกร หรือ วิไล ที่ก่อเหตุกระทำอนาจารสามเณรได้แล้ว แต่อ้างว่าเณรเป็นใจ ตนจึงเข้าไปช่วย
พ.ต.อ.บุญเชิด จันทร์มณี ผู้กำกับ สภ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี เปิดเผยว่า หลังจากที่เกิดเหตุ พระฤทธิไกร หรือ วิไล อายุ 53 ปี ต.แม่เปิน อ.แม่เปิน จ.นครสรวรรค์ ได้ก่อเหตุข่มขืนเณรที่อยู่วัดเดียวกัน โดยได้กระทำอนาจารใช้อวัยวะเพศสอดใส่ทางทวารหนัก ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ถึง 27 กันยายน 2566 เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายทั้งร่างกายและจิตใจ จากนั้นได้หลบหนีไปหลังจากที่รู้ตัวว่าเป็นข่าวโด่งดัง จนเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอหมายศาล เพื่อตามตัวจับกุมมาดำเนินคดี จนทราบว่าได้ไปพบตัว พระฤทธิไกร ที่ตำบลวังเพิ่ม อำเภอสีชมพู จังหวัดขอนแก่น ชุดสืบสวนจึงจับกุมตัวมา เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2566 แล้วทำการจับสึกออกจากการเป็นพระทันที จากนั้นก็นำตัวมาถึง สภ.ห้วยคต ในวันนี้เพื่อทำการสอบสวนคดี
ด้าน พ.ต.ต.ดิเรก เอี่ยมเร พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยคต ได้นำตัวนายฤทธิไกร ซึ่งขาดจากความเป็นพระไปแล้วมาสอบปากคำ โดยมีสีหน้าที่เครียดอย่างเห็นได้ชัด หลังจากทำการสอบสวนอยู่ประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า พ.ต.อ.บุญเชิด ผู้กำกับ สภ.ห้วยคต ได้นำตัวผู้ต้องหาไปสอบถึงการก่อเหตุที่ห้องทำงาน โดยนายฤทธิไกร ผู้ต้องหาบอกว่าตอนที่กระทำอนาจาร เณรอายุ 14 ปี ตัวเณรนั้นยินยอมแล้วก็รู้เห็นด้วย แล้วยังอ้างว่าตัวเณรนั่นแหละเล่นก่อน ซึ่งเณรนั้นกำลังช่วยตัวเองอยู่ แล้วก็เข้าไปช่วยจนสำเร็จความใคร่ จนเรื่องแดงจึงหลบหนีและถูกออกหมายจับในเวลาต่อมา และหนีไปกบดานอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น และครั้งแรกที่ไปถึงจะไปขออาศัยที่วัด แต่ทางพระที่นั่นก็ไม่ให้อยู่จึงไปอยู่แถวกระท่อมในหมู่บ้านดังกล่าว โดยมีพี่ชายที่อยู่ที่ขอนแก่นคอยให้การช่วยเหลือ ยอมรับอีกว่าได้ร่วมหลับนอนกับเณรมานานแล้วเป็นปี แต่ไปกับพระหรือเณรอีกหลายรูป
ทางด้าน พ.ต.อ.บุญเชิด ได้เปิดเผยว่าผู้เสียหาย คือ นายประทวน พ่อของเณรสามเณร บุตรชาย อายุ 14 ได้มาแจ้งความตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2566 โดยเดิมทีผู้ต้องหาเป็นพระสงฆ์บวชอยู่ที่ ที่พักสงฆ์คลองเคียน หมู่ 1 ตำบลทองหลาง อำเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี โดยได้ก่อเหตุกระทำชำเรา หรืออนาจารสามเณรที่บวชอยู่ นับแล้วได้กระทำอนาจารเณรรูปดังดังกล่าวกว่า 40 ครั้งจากนั้นก็ได้รวบรวมพยานและหลักฐานขออนุมิติหมายศาล จนมาจับกุมผู้ก่อเหตุได้ในที่สุด ซึ่งพอหลังจากเกิดเหตุแล้วก็มีพฤติกรรมหลบหนีความผิดไปจังหวัดขอนแก่น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ไปจับกุมมาดำเนินคดีแล้วรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา โดยได้แจ้งข้อกล่าวหาก็คือได้กระทำอนาจารโดยใช้อวัยวะเพศสอดใส่ทางทวารหนัก โดยกระทำชำเราตั้งแต่วันที่ 1สิงหาคม - 27กันยายน 2566เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายทั้งร่างกายและจิตใจ
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ไปยังที่พักสงฆ์สงฆ์คลองเคียน ซึ่งเป็นที่พักสงฆ์ที่อยู่ในป่า เป็นหมู่บ้านชุมชนของชาวกระเหรี่ยง ทางเข้าวัดนั้นห่างไกลความเจริญ และเป็นสถานที่ที่เณรถูกล่วงระเมิดทางเพศ พระอาจาร์ย์สายันต์ ขันติสัมปัญโน หัวหน้าที่พักสงฆ์เปิดเผยว่า นายฤทธิไกร ได้มาจำอยู่ที่พักสงฆ์แห่งนี้ ประมาณ 1 ปีกว่า โดยมีพระที่รู้จักกันนั้นพามาฝาก ไม่รู้ว่ามีพฤติกรรมอย่างไรจริง ๆ ก่อนที่มีเรื่องราวฉาวจนดังเป็นข่าวขึ้น ทั้งนายฤทธิไกร และเณรนั้น อาศัยหรือนอนอยู่ที่กุฎิเดียวกันด้านหลังที่พักสงฆ์แห่งนี้ โดยเณรนั้นมาบวชได้ไม่ถึงพรรษา แต่หลังจากที่เกิดเรื่องในตอนนี้ก็ทำการสึกไปแล้ว ไปอยู่กับพ่อแม่ซึ่งไม่รู้เลยว่าพระฤทธิไกรนั้นทำอะไรเณร ก็เพราะว่าที่พักสงฆ์แห่งนี้ไม่มีไฟฟ้าใช้ พอมืดค่ำพระสงฆ์ก็จำวัดกันเร็ว พอตื่นเช้ามาก็ออกบิณทบาตร ตามปกติ พอมารู้อีกทีก็กลายเป็นเรื่องอื้อฉาวใหญ่โตไปแล้ว ซึ่งก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นที่พักสงค์แห่งนี้แต่ก็ดีใจที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมนายฤทธิไกร หรือพระฤทธิไกร มาดำเนินคดีแล้ว ซึ่งทำให้เสื่อมเสียพุทธศาสนา หรือวงการพระสงฆ์ ในจังหวัดอุทัยธานีเป็นอย่างมาก และผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อไปยังนายประทวน พ่อของเณรสามเณร ที่อยู่จังหวัดนครสวรค์ เพื่อสอบถามถึงเรื่องราวของลูกชายแต่ไม่สามารถติดต่อได้