กอล์ฟ หนุ่มแรงงานไทย เล่านาทีหนีตาย “ผมไม่กลับไปอีกแล้ว”

13 ต.ค. 66

 

กอล์ฟ หนุ่มแรงงานไทย เล่านาทีหนีตาย “ผมไม่กลับไปอีกแล้ว” ใส่แค่บ๊อกเซอร์ นอนหลบในป่าส้ม ข้ามวันข้ามคืน 

เมื่อเวลา 17.55 น. วันที่ 13 ต.ค. 66 ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ นายวีรพล หลับจันทร์ หรือ กอล์ฟ อายุ 36 ปี ชาวจ.นครพนม ซึ่งเป็น 1 ใน 19 แรงงานไทย ที่รัฐบาลดำเนินการช่วยอพยพกลับไทยชุด 2 กล่าวว่า ตนเดินทางกลับมาครั้งนี้จากการประสานของรัฐบาล ตนทำงานอยู่ในพื้นที่ใกล้กับ ฉนวนกาซา เขาบุกมาตรงนั้นคือเป็นจุดเด่น เพราะเป็นโรงงาน 

เหตุการณ์วันนั้นประมาณ 19.00 น. วันที่ 7 ต.ค. ทุกคนได้ยินเสียงระเบิด ก็รีบเข้าไปหลบในบังเกอร์ เมื่อเสียงเงียบไป ทุกคนก็ออกมาใช้ชีวิตปกติ คือออกมานอนพัก และทำกับข้าว แต่จากนั้นก็มีเสียงปืนรัวประมาณ 3-4 ครั้ง ทุกคนก็วิ่งเข้าไปในบังเกอร์ใหม่ แต่มีน้องผู้หญิงและผู้ชาย 2 คนถูกจับตัวไป พวกโจรใส่ชุดลายพราง สวมหมวก เข้ามาก็ยิงปืนรัว 4-5 ครั้ง 

นายวีรพล กล่าวต่อว่า น้องเขาก็กรี๊ดบอกว่าเป็นคนไทย ไทยแลนด์ๆ แต่โจรก็จับน้องไป จากนั้นทุกคนก็ต่างวิ่งเข้าไปในห้องพัก ตนก็วิ่งเข้าไปในห้องพักและหลบที่ใต้เตียงนอน จากนั้นตนก็ประสานหัวหน้างาน แต่ติดต่อไม่ได้ ทุกคนก็ต้องดูแลตัวเอง ต่อมาทุกคนคิดว่าไม่มีอะไรแล้ว เพราะทหารอิสราเอลออกลาดตระเวนแล้ว จึงออกมากินข้าว แต่มีคนเห็นว่ามีคนมาและมีเสียงปืน ทำให้ทุกคนวิ่งเข้าไปหลบเหมือนเดิม พวกตนไปหลบกันในป่าส้ม จนครั้งที่ 3 มืดแล้ว และสถานการณ์เงียบ มีทหารออกมาบินเฮลิคอปเตอร์และเดินลาดตระเวน บางคนจึงออกมากินข้าว ส่วนตนนอนอยู่ในห้องพัก 

นายวีรพล กล่าวต่อว่า แต่กลุ่มโจรกลับมาอีก และปาระเบิดเข้าไปในซอกห้องแต่ละห้อง ตอนนั้นคิดว่าตนต้องตายแน่ๆ จากนั้นก็เผาห้อง ตนก็วิ่งออกมาจากซอกห้อง เพราะไม่เช่นนั้นจะถูกไฟไหม้ ตัดสินใจวิ่งหนีเข้าไปในป่าส้มนข้ามวันข้ามคืน นอนราบกับพื้น ใส่แค่บ๊อกเซอร์ จนได้ยินเสียงคนไทยถามว่า มีคนในป่าส้มหรือไม่ และมีทหารมารับ 

“ตอนนั้นคิดถึงหน้าพ่อหน้าแม่ เพราะไปทำงานแค่ 3 เดือน แม่ก็เสียชีวิต เมื่อกลับมาถึงเมืองไทยแล้วหายกังวลทุกอย่าง เพราะสถานการณ์มันหนักมาก ตอนที่เจ้าหน้าที่สถานทูตโทรมาแจ้งว่ารัฐบาลได้ประสานเครื่องบินให้แล้วนั้น รู้สึกดีใจมาก ผมอยากให้คนไทยที่เหลือกลับมาประเทศเราดีกว่า สงครามสงบค่อยกลับไปใหม่ก็ได้ อยากให้รัฐบาลประสานงานช่วยคนไทยออกมาให้หมด แต่สำหรับผมไม่กลับไปแล้ว แม้ว่าจะเพิ่มเดินทางไปครั้งแรก แค่ 1 ปี 6 เดือน” นายวีรพล กล่าว

 

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส