เหยื่อสงครามอิสราเอลยันอยากกลับบ้าน ติดต่อสถานทูตไม่ได้กว่า 100 คน

11 ต.ค. 66

กลุ่มคนไทยที่ไปทำงานที่อิสราเอลรวมตัวกันนับ 100 แพ็คกระเป๋าเตรียมกลับบ้าน แต่ยังติดต่อใครไม่ได้จนถึงตอนนี้ เชื่อมีคนไทยเสียชีวิตมากกว่าที่เป็นข่าว

จากกรณีที่มีหนุ่มแรงงานไทยคนหนึ่งใช้ชื่อ Facebook ว่า “ทิว นครเพ็ญ” ได้โพสต์คลิปร้องเรียนขอความช่วยเหลือหลังจากที่มีแรงงานไทยกว่า 100 ชีวิตติดอยู่ที่เมืองนิติวูดโมชาฟชูวา ทางตอนใต้ของอิสราเอล แต่ละคนแพ็คกระเป๋าเตรียมกลับบ้าน เพราะกลัวการสู้รบ แต่กลับติดต่อเจ้าหน้าที่ไม่ได้เลย

ล่าสุด ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีเดินทางไปที่บ้านของผู้ใช้ Facebook รายนี้ทราบชื่อต่อมาคือ นายธีระวัฒน์  บุตรสุรินทร์ อายุ 25 ปี ชาว ต.จอมศรี อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี โดยย่าและญาติของนายธีระวัฒน์ ได้วิดีโอคอลคุยกับหลานชายและโบกไม้โบกมือถามไถ่สถานการณ์ ด้วยความเป็นห่วง

นายธีระวัฒน์ เปิดเผยว่า ตอนนี้อยู่ในเมืองนิติวูด โซนภาคใต้ตอนกลางของอิสราเอล  สถานการณ์เริ่มคลี่คลายจากเมื่อ 2-3 วันก่อนแล้ว ซึ่งตอนนั้นสถานการณ์ค่อนข้างหนักหน่วงมีการยิงปะทะกันเป็นระยะ โดยตนอยู่ในแคมป์ซึ่งเป็นแคมป์คนไทยที่มีด้วยกัน 17 คน ส่วนในหมู่บ้านมีคนไทยอยู่อีกนับ 100 คน

ในช่วงที่สถานการณ์รุนแรงจนรู้สึกหวาดกลัวและไม่รู้ว่าสถานการณ์จะปลอดภัยหรือไม่ จึงได้มีการประสานงานไปกับทางเจ้าหน้าที่กงสุลและสถานทูตเพื่อที่จะประสานงานขอเดินทางกลับบ้านและขอข้อมูลเพื่อยืนยันความปลอดภัยแต่ก็ไม่สามารถติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่ได้เลย โทรไปก็ไม่มีใครรับสายซึ่งตนเข้าใจว่าคนไทยที่อยู่อิสราเอลมีจำนวนมาก

ขณะเดียวกันตอนนี้แม้ว่าสถานการณ์จะเหมือนคลี่คลายลงแล้ว แต่ตนคิดว่าน่าจะหนักขึ้นเรื่อย ๆ แต่คงจะไม่เท่ากับวันแรกที่กลุ่มฮามาสบุกเข้าโจมตี จนตอนนี้ตนก็ยังคงตั้งใจอยากจะเดินทางกลับบ้าน เพื่อกลับไปตั้งหลักและปรับสภาพจิตใจ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อทางเจ้าหน้าที่กงสุลหรือสถานทูตได้ จึงเลิกติดต่อไปแล้วเพราะติดต่อไปกี่ครั้งก็ยังเหมือนเดิม

จึงขอฝากบอกไปยังเจ้าหน้าที่ หากเห็นข่าวหรือได้ดูอยู่ก็ขอให้ติดต่อมายัง Facebook ส่วนตัวของตนเองพร้อมจะประสานงานให้กับคนไทยที่อยู่ในหมู่บ้านซึ่งส่วนหนึ่งก็ต้องการจะเดินทางกลับบ้านเช่นเดียวกัน

นายธีระวัฒน์ เล่าอีกว่าในวันที่กลุ่มฮามาสบุกเข้าโจมตี ได้บุกเข้ามากราดยิง เจอใครก็ยิงหมดสถานการณ์รุนแรงมากเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว แต่โชคดีที่ทหารอิสราเอลเข้ามาป้องกันได้อย่างทันท่วงทีทำให้ที่หมู่บ้านแห่งนี้กลายเป็นหมู่บ้านเดียวที่ไม่ถูกกลุ่มฮามาสบุกโจมตีสำเร็จ ส่วนยอดผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตในหมู่บ้าน ตอนนี้ตนก็ไม่ทราบจำนวนว่าเท่าไหร่เนื่องจากว่าตอนนี้ยังคงมีการเตือนให้อยู่แต่ในแคมป์ เนื่องจากมีการกวาดล้างกลุ่มฮามาสที่บุกเข้ามาในรอบแรก กลุ่มดังกล่าวยังกระจัดกระจายตัวออกไปและแฝงตัวอยู่ในหมู่บ้าน จึงต้องระมัดระวังไม่ให้ถูกจับไปเป็นตัวประกัน ขณะเดียวกันตนยืนยันว่ายอดผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บในตอนนี้มีเยอะเกินกว่าที่มีกระแสข่าวออกไป

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส