“จุลพันธ์” ย้ำ เงินดิจิทัลฯ 1 หมื่นบาท ต้องกลับไปใช้ตามภูมิลำเนา

3 ต.ค. 66

“จุลพันธ์” ย้ำ เงินดิจิทัลฯ 1 หมื่นบาท ต้องกลับไปใช้ตามภูมิลำเนา บอกอยากให้กลับบ้าน หากไม่กลับบ้านเลย ท่านก็ย้ายทะเบียนบ้านเถอะครับ 

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 3 ต.ค. 66 ที่ทำเนียบรัฐบาล นาย จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความคืบหน้านโยบายโครงการเติมเงิน 10,000บาท ผ่าน ดิจิทัลวอลเล็ตว่า 

กระทรวงการคลังได้นำเสนอเรื่องต่อ ครม. เพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต โดยมีนาย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เป็นประธาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เป็นรองประธานฯ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ เป็นรองประธานฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นรองประธานฯ และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เป็นรองประธานฯ 

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง เป็นกรรมการ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เป็นกรรมการ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นกรรมการ ปลัดกระทรวงดีอีเอส เป็นกรรมการ และปลัดกระทรวงการคลัง เป็นกรรมการและเลขานุการ นอกจากนี้ยังมีผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ผอ.สำนักงบประมาณ คณะกรรมการกฤษฎีกา อัยการสูงสุด และ ผบ.ตร. ร่วมเป็นกรรมการ 

นาย จุลพันธ์ กล่าวต่อว่า ถือว่าองค์ประกอบครบองคาพยพ เพราะสิ่งที่ได้รับมอบหมาย ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงปลายน้ำ ที่จะพิจารณากรอบนโยบายทและวงงบประมาณ แหล่งที่มางบประมาณ กลไกการดำเนินการต่างๆ รวมถึงเมื่อนโยบายได้ริเริ่มแล้ว จะมีหน้าที่ในการติดตาม และตรวจสอบการทุจริตต่างๆ ด้วย พร้อมทั้งทำหน้าที่สรุปผลทว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่อย่างไร เพื่อรายงานให้ ครม.รับทราบต่อไป 

นาย จุลพันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้เบื้องต้นคณะกรรมการฯ ได้นัดประชุมนัดแรกภายในสัปดาห์นี้ เมื่อประชุมนัดแรกแล้วจะมีการมอบนโยบาย และตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบาย โดยมีตนทำหน้าที่เป็นประธานอนุกรรมการฯ เพื่อดำเนินการลงรายละเอียดให้ครบถ้วนต่อไป 

ทั้งนี้เรื่องกรอบข้อกฎหมาย และ พ.ร.บ.เงินตราที่เป็นประเด็นในสังคม เราได้พูดคุยกับธนาคารแห่งประเทศไทยในเบื้องต้น เรามีกลไกทำ และรองรับโดยไม่ขัดต่อกฎหมายใดๆ และยืนยันว่าใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนแน่นอน เพราะโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ 

นาย จุลพันธ์ กล่าวว่า ส่วนกรอบระยะทางการใช้ภายใน 4 กิโลเมตร เป็นหน้าที่คณะอนุกรรมการ ซึ่งจากการรับฟังเสียงประชาชน มีแนวโน้มจะขยายกรอบพื้นที่ เพราะบางหมู่บ้านก็ตึงจริง แทบหาอะไรไม่ได้เลย แต่สุดท้ายต้องรอคนฟันธง คือคณะกรรมการ 

“ยืนยันว่าโครงการนี้ ไม่มีการกั้นใครออกจากระบบ ร้านค้าสามารถดำเนินการได้ทั้งรายเล็กรายใหญ่ มันจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติ และความต้องการของประชาชน สิ่งที่เราล็อกไว้ 2 อย่าง คือกรอบระยะเวลา และระยะเวลาในการใช้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เกิดการใช้เร็วที่สุด ส่วนกรอบระยะทาง ยืนยันว่าเม็ดเงินหมุนอยู่ในชุมชน ส่วนเรื่องแหล่งเงิน ยืนยันว่าเราไม่มีปัญหา สามารถดำเนินการได้ และตั้งเป้าเหมือนเดิมคือ เริ่มดำเนินการได้ในวันที่ 1 ก.พ. 67” นาย จุลพันธ์ กล่าว 

เมื่อถามว่า หากนโยบายนี้ไม่ประสบความสำเร็จ หรือไม่เป็นอย่างที่คิด ใครจะรับผิดชอบ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า กลไกในการทำ เราเชื่อมั่นว่าจะทำให้เกิดพายุเศรษฐกิจทั่วประเทศ เป้าหมายที่นายกฯ วางไว้คือการเจริญเติบโตจีดีพีของปีถัดไป ไม่ต่ำกว่า 5% เชื่อว่ากลไกดิจิทัลวอลเล็ตเป็นหนึ่งกลไกที่เราทำ 

“อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าโครงการนี้เป็นประโยชน์ และเดินหน้ากระจายความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจได้ ทุกนโยบายมีทั้งบวกและลบ แต่เราจะลิมิตความผิดพลาดอย่างไร หากเป็นประโยชน์เราต้องเดินหน้าให้สำเร็จ เรายืนยันอยากให้กลับไปใช้ที่ชุมชนเดิม หากไม่กลับบ้านเลยท่านก็ย้ายทะเบียนบ้านมาเถอะครับ แต่ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่สามารถกลับบ้านได้ แต่คนส่วนน้อยก็ต้องมาหาหนทางกัน เราอยากให้ท่านได้กลับบ้าน ไปใช้เศรษฐกิจในชุมชน”นาย จุลพันธ์ กล่าว

advertisement

ข่าวยอดนิยม