“บิ๊กทิน” อวยทหารคือฮีโร่ในดวงใจ มีความสุขทำงานกับคนมีวินัย

22 ก.ย. 66

"บิ๊กทิน" นำประชุม อผศ.ครั้งแรกหลังรับตำแหน่ง รมว.กลาโหม 2 สัปดาห์ อวยทหารคือฮีโร่ในดวงใจ เป็นอาชีพที่ใฝ่ฝันตั้งแต่เด็ก บอกกำลังมีความสุขที่ได้ร่วมงานเพราะมีวินัย ชี้หากไม่มีพ.ร.ก.ฉุนเฉิน ต้องมีเครื่องมือดูแลพื้นที่ จชต.

นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานในการประชุมสภาทหารผ่านศึก ว่า การประชุมวันนี้เป็นครั้งแรกของตนเองและเป็นครั้งสุดท้ายของปีงบประมาณ 2566 โดยได้มีการพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องงบประมาณรายจ่ายปี 2567 ที่ยังคงเท่าเดิม  ส่วนปี 2568 เพิ่มมานิดหน่อยตามจำนวนทหารผ่านศึกที่มีเพิ่มขึ้นมาซึ่งอยู่ในกรอบความจำเป็น

นายสุทิน ยังระบุว่า ในการประชุมครั้งนี้ยังไม่ได้มีการพิจารณาสรรหา ผอ.อผศ. คนใหม่ ที่จะมาทดแทนคนเดิมที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้ แต่คุณสมบัติจะต้องเป็นคนที่สังคมยอมรับได้ รวมถึงประวัติความเป็นมาต้องไม่ด่างพร้อย และตนเองอยากได้ ผอ.อผศ.คนใหม่ที่มีความคิดพัฒนา หารายได้เข้ามา มีความคิดเชิงธุรกิจ ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีใครในใจ

ส่วนเงินช่วยเหลือด้านสวัสดิการทหารผ่านศึก ก็ต้องปรับให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน ต้องคำนึงทุกภาคส่วนของประเทศ แต่แน่นอนที่สุดต้องให้ทหารผ่านศึกดำรงชีพอยู่ได้

ส่วนความรู้สึกในฐานะที่เป็นพลเรือนที่มีต่อทหารผ่านศึกนั้น นายสุทิน กล่าวว่า ตั้งแต่เป็นเด็กมองว่าทหารผ่านศึกคือฮีโร่ในดวงใจ และคิดว่าอยากเป็นทหาร พร้อมชื่นชมทหารที่ผ่านสนามรบ แต่ไม่คิดว่าจะได้มาทำงานร่วมกัน จึงคิดว่าทางใดที่จะช่วยให้ทหารผ่านศึกอยู่ได้ และมีบั้นปลายที่ดีก็อยากจะทำ เชื่อว่าหากช่วยให้ทหารผ่านศึกได้รับการดูแลที่ดี ก็จะส่งผลถึงทหารประจำการด้วย เพราะคนที่เป็นทหารอยู่ตอนนี้ก็ต้องมองอนาคตของตนเอง หากได้รับการดูแลที่ดีก็จะมีกำลังใจ

นายสุทิน ยังเปิดเผยภายหลังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมา 2 สัปดาห์แล้ว ว่า กำลังมีความสุขขึ้น เรื่อย ๆ ปัญหาหนัก ๆ ก็ไม่เกินคาด ตอนเป็น สส. ก็ทราบว่ากระทรวงกลาโหม งานหนัก แต่ที่มีความสุขก็คือมาเจอความมีวินัยของทหาร ทหารมีวินัยก็มีความสุข ไม่ยุ่งปวดหัวเหมือนองค์กรที่ไม่มีวินัย พร้อมยอมรับว่าหากย้อนเวลาได้ก็อยากที่จะเป็นทหาร แต่วันนี้แก่แล้วคงไม่ไหว

ส่วนความคืบหน้าการต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หากพ้น 1 เดือนที่ ครม.อนุมัติไปนั้น นายสุทิน กล่าวว่า ก็ต่อเท่าที่จำเป็น ถ้าไม่ต่อเลยเขาก็ทำงานไม่ได้ หรือต่อมากก็มีผลกระทบ เพราะฉะนั้นต้องเข้าใจว่าที่รัฐบาลต่อเพราะเท่าที่จำเป็น  เพราะคำนึงถึงความรู้สึกของประชาชน ซึ่งฝ่ายที่ไม่อยากให้ต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็มี แต่ความจำเป็นก็มี จึงต้องเอาแค่พองาม

เมื่อถามถึงกรณีที่พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ รักษาการผู้บัญชาการทหารบก ระหว่างการลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่าหากจะยกเลิกต้องมีเครื่องมือให้ทหาร ฉะนั้นรัฐบาลพรรคเพื่อไทยได้มีการเตรียมเรื่องดังกล่าวไว้หรือไม่ เพราะมีนโยบายเรื่องสิทธิและเสรีภาพ นายสุทิน ระบุว่า แน่นอน หากคำนึงถึงประชาชนทั่วไปเขาก็ต้องการมีสิทธิเสรีภาพมากด้วย แต่เมื่อไปชายแดนทั่วประเทศแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มันต้องมี พ.ร.ก. ฉุกเฉินหรือไม่ก็กฎอัยการศึกเพื่อให้ทหารทำงานได้ ซึ่งเราก็ยอมรับความจริงในเรื่องนี้อยู่ ฉะนั้นหากจะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ต้องมีกฎอัยการศึกหรือไม่ เรื่องนี้มันมีมากกว่าภารกิจของกองทัพบกเพราะเป็นเรื่องของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และนายกรัฐมนตรี ก็ต้องเข้ามาพูดคุยหารือกันด้วย เราฝ่ายปฏิบัติก็พูดได้เพียงเท่า

ส่วนมีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง แทน หลังครม.มีแนวคิดดังกล่าว นายสุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ทราบ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม