"นายกฯ"เศรษฐาชนหมัด"ชัชชาติ"สนับสนุนงานร่วมพัฒนากทม.

18 ก.ย. 66

"เศรษฐา​"หารือ​"ชัชชาติ"แก้ปัญหา​กทม.​บอกทำงานเหมือนพี่น้อง​ เล่าความหลัง​เคยเชียร์ชัชชาติเป็นนายกฯ​ ก่อนชนหมัดโอบไหล่ชื่นมื่น


นายเศรษฐา​ ทวีสิน​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง​ แถลงภายหลังการหารือร่วมกับนาย ชัชชาติ​ สิทธิ​พันธุ์​ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยระบุว่า​ วันนี้เป็นการพูดคุยกันบรรยากาศแบบสบายๆ​ อยากเปลี่ยนอิริยาบถบ้าง เป็นการพูดคุยแบบเป็นกันเอง เชื่อว่าวิธีแบบนี้ จะทำให้เป็นการพูดคุยกันได้อย่างสบายใจ กรุงเทพมหานครเป็นจังหวัดที่ใหญ่ 1 ใน 3 GDP ของประเทศอยู่ที่นี่ ประชาชนทั้งประเทศมีความคาดหวัง ทั้งรายได้จากการท่องเที่ยว เรื่องฝุ่นเรื่องปัญหารถติด การใช้ทรัพยากรที่สิ้นเปลือง กรุงเทพฯ เป็นที่หมายตาของทุกคน

ตนกับนายชัชชาติ รู้จักกันมานาน มีการคุยกันตั้งแต่การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำได้ว่านายชัชชาติ​ ไปหาตนที่ทำงานเก่า ตนบอกว่า ท่านน่าจะสมัครเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ต้องไปลงผู้ว่าฯ หรอก ท่านบอกว่าท่านอยากเป็นผู้ว่าฯดีกว่า ให้ตนมาลงเป็นนายกฯแทน​และทำงานร่วมกัน พี่ๆน้องๆนั่งคุยกัน อย่างสบายๆ วันนั้นจริงๆแล้วก็ไม่คาดฝัน ว่าจะมีวันนี้มานั่งคุยแบบพี่ๆน้องๆได้ พอตนเข้ารับตำแหน่ง หนึ่งในบุคคลสำคัญที่ตนคิดถึงคนแรกๆ คือผู้ว่าฯชัชชาติ​ ซึ่งท่านก็มาด้วยฉันทามติที่ท่วมท้น 1.4 ล้านเสียง ถือว่าสูงมากในประวัติศาสตร์ ถือเป็นภารกิจแรกๆ ที่ตนอยากจะทำ อยากพูดคุยสนับสนุน ผู้ว่าฯ ชัชชาติให้ทำงานลุล่วง ไปด้วยดี เพราะกรุงเทพมหานครเป็นภาคส่วนที่สำคัญของการขับเคลื่อนประเทศ

นายกรัฐมนตรี​ กล่าวต่อว่า การมานั่งคุยในวันนี้ เกิดจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนไปนั่งทานอาหารกลางวันกับผู้ว่าฯชัชชาติ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และมีการพูดคุยกันว่าจะตั้งคณะทำงานเร่งรัดพัฒนา กทม. ชุดเล็กขึ้นมาเพื่อขับเคลื่อนกรุงเทพฯ​ โดยการใช้นโยบายเป็นหลัก เรื่องการใช้งบประมาณคงมีน้อยมาก​ หน้าที่ของรัฐบาลคือสนับสนุนให้ผู้ว่าสัญชาติให้แก้ไขปัญหา อย่างน้อยคือเรื่อง​ Quick Win อะไรทำได้ทำก่อน โดยเป็นเรื่องที่ใช้งบประมาณน้อยหรือไม่ใช้เลย อาจเป็นการประสานงานกับหน่วยงานราชการที่ขึ้นตรงกับตนเอง ให้มาสนับสนุนการทำงานของนายชัชชาติ​ ในเรื่องการจราจร​ อาชญากรรม ซึ่งปัญหานี้เป็นปัญหาใหญ่​ ที่จะสามารถบรรเทาไปได้ จากการประสานงานที่ดีกว่า ซึ่งวันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดก็มีแนวทางมานำเสนอ หน้าที่ตนคือการสนับสนุน ทำให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองน่าอยู่

ด้านนายชัชชาติ​ กล่าวว่าปัญหากรุงเทพฯ คือการประสานงานระหว่างหน่วยงาน เพราะกทม.มีข้อจำกัดในการใช้อำนาจ หากมีการประสานงานที่เข้มข้น มีทิศทางชัดเจน เชื่อว่าปัญหาหลายอย่างจะบรรเท ลงไปได้เยอะ ซึ่งครั้งแรกที่คุยกันจะมีการตั้งเป็นคณะทำงาน มีเพียงไม่กี่คน อาจมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง กระทรวงมหาดไทย ตำรวจนายกรัฐมนตรี​ และกรุงเทพฯ​ พร้อมกับระบุว่าไม่เน้นเมกะโปรเจคในการลงทุน แต่เน้นเรื่องการผลักดันสิ่งที่เป็นข้อติดขัด ซึ่งเป็นคนละส่วนกับการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง หากเป็นปัญหาเร่งด่วนก็จะใช้คณะทำงานชุดนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนคุยกับนายกรัฐมนตรี ว่าคณะทำงานห้ามเกินพิซซ่า 2 ถาด คือมีจำนวนไม่มาก เพราะถ้าคณะกรรมการเยอะมันจะไม่จบ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็เห็นด้วย​

ขณะเดียวกันนายชัชชาติ​ ยังระบุอีกว่า​ แนวคิดเรื่องการท่องเที่ยว ปัญหาที่เจอมากที่สุด ที่ทูตทุกคนพูดถึงคือเรื่องของความปลอดภัยการโกงนักท่องเที่ยว แท็กซี่ผี​ ไกด์ผี วันนี้กทม.ทำได้ในระดับหนึ่ง หากได้ร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ เชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ นอกจากนี้ยังมีแนวคิดจะทำเทศกาลฤดูหนาวในช่วงปลายเดือนธันวาคมให้ทุกภาคส่วนมาร่วมกัน จะจัดให้เป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ให้ถึงระดับโลก​ ให้คนมาเที่ยวเพื่อกระจายรายได้ไปสู่กลุ่มรากหญ้า​

ส่วนเรื่องการนำสายสื่อสารลงดิน​ นายชัชชาติ​ ระบุว่า แม้ทางกทม.สามารถทำได้ แต่ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน หากมีการทำเชิงนโยบายเชื่อว่าจะสามารถผลักดันได้เร็ว​

โดยในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรี​ กล่าวว่า​ ตนเห็นด้วยในเรื่องของการสนับสนุน​ หน้าที่ตนคือการสนับสนุนน้องชาย​ ที่ดูแลภาคส่วนที่ใหญ่​ สั่งการในสิ่งที่ผู้ว่าฯไม่มีอำนาจสั่งการ​ วันนี้เรามาพูดคุยกันก็จะมีคณะกรรมการเกิดขึ้น​ จะมีการนำเสนอผลงาน​ทั้งขั้นตอนการทำงานให้รับทราบอย่างต่อเนื่อง​

โดยในช่วงท้ายผู้สื่อข่าว​ได้สอบถามถึงปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียว นายชัชชาติ​ ระบุว่า​ ขณะนี้ขั้นตอนอยู่ที่กระทรวงมหาดไทย​ ตอนี้กทม.ต้องตอบในประเด็นที่มหาดไทยทำจดหมายมาถาม​ ซึ่งต้องให้รายละเอียดไป​ จากนั้นมหาดไทยจะนำเรียนนายกฯ​อีกที​ ซึ่งตนได้เรียนต่อนายกรัฐมนตรีแล้วว่าต้องให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย​ ทั้งประชาชนและเอกชน​ในอนาคต อาจมีรถไฟฟ้าอีกหลายสาย ที่ต้องเชิญเอกชนมาลงทุน ดังนั้นจึงต้องคำนึงถึงความมั่นใจและความโปร่งใส วันนี้เรื่องอยู่ในสภาฯกทม. เชื่อว่าจะสามารถตอบทางกระทรวงมหาดไทยได้ใน 1-2 สัปดาห์ ก่อนนำเรื่องเสนอต่อนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้นายก​รัฐมนตรี และนายชัชชาติได้ชนหมัดหลังการแถลงร่วม​ ก่อนที่นายกรัฐมนตรี​ จะได้โอบไหล่นายชัชชาติ​.

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวการเมือง เป็นกระแส