“พิธา” บอกในพรรคมีแววเป็น หน. 4-5 คน หนึ่งในนั้นคือ “ศิริกัญญา”

15 ก.ย. 66

“พิธา” ย้ำชัด คนในพรรคเหมาะเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ 4-5 คน หนึ่งในนั้นคือ “ศิริกัญญา” แต่เป็นความเห็นส่วนตัวส่วนใครเหมาะสมที่สุดขึ้นอยู่กับมติพรรคฯ  เหตุเพราะพรรคก้าวไกลไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่งที่จะเป็นการสืบทอดอำนาจ ยืนยันทำการเมืองนอกสภา ฝากแฟนคลับชาวไทยและ ตปท. ติดตามผลงาน จนกว่าจะพบกันใหม่ในสนามการเมือง

กรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Pita Limjaroenrat - พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรคก้าวไกล

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. นายพิธา ปรากฎตัวมาร่วมงานสัมมนานำเสนอยุทธศาสตร์ ที่จัดโดยนักศึกษาหลักสูตร การพัฒนาการเมืองและ การเลือกตั้งระดับสูง (พตส.) รุ่น 13 โดยนายพิธาได้รับเชิญกล่าวปาฐกถา ในประเด็นร่วมสมัย หัวข้อ “พรรคการเมืองแบบไหนที่คนไทยต้องการ” ที่ห้องประชุมสโมสรราชพฤกษ์ นอร์ธปาร์คถนนวิภาวดีรังสิต

ก่อนเข้าร่วมงานนายพิธา ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นการลาออกจากหัวหน้าพรรคว่า เป็นความเห็นส่วนรวมมากกว่าความเห็นส่วนตัว ซึ่งเป็นสำนึกของนักการเมือง ซึ่งตนเองหมายความว่าส่วนรวมคือในบริบทการเมืองปัจจุบันฝ่ายค้านต้องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในเชิงมหาภาคและจุลภาค

ซึ่งเรื่องมหาภาค คือ ผู้นำฝ่ายค้านต้องเป็นเรือหลักในการนำทิศทางการอภิปรายสำคัญ เช่นงบประมาณแนะนำรัฐบาล และอภิปรายไม่ไว้วางใจ แม้กระทั่ง

เรื่องจุลภาค คือ เรื่องการแต่งตั้งประธานวิปฝ่ายค้านต้องมีผู้นำฝ่ายค้าน ซึ่งคือเรื่องส่วนรวม โดยไม่ต้องห่วงตน ให้ห่วงประชาชนและบ้านเมืองประเทศดีกว่า

ขณะที่เรื่องส่วนตัวยืนยันคำเดิมที่เคยพูดที่ จ.ระยองว่า “ไม่ได้ยึดติดกับ หัวโขน หรือ ตำแหน่ง ตนเชื่อว่าปัจจุบันตนสามารถทำงานได้แม้ไม่ได้มีตำแหน่ง แต่อยากบอกประชาชนว่ายังเป็นสส.ที่เข้าสภาไม่ได้ เพราะถูกหยุดปฎิบัติหน้าที่ แต่ยังอย่างสามารถทำงานในฐานะสมาชิกพรรคก้าวไกล จิตใจเกิน 100 พร้อมเดินหน้าทำงานในช่วงที่รอคำตัดสินของศาลรัฐธรรมมนูญอยู่”

นายพิธา กล่าวว่า จากนี้อาจจะเจอตนมากกว่าเดิมจะมาเขย่าการเมืองไทยและเขย่าปัญหาของพี่น้องประชาชนส่งต่อให้สส.เพื่อนพรรคก้าวไกลและฝ่ายค้านที่ยังอยู่ในสภาฯ

ซึ่งหลังจากนี้ตนมีกำหนดการในการเดินทางไปทั่วประเทศโดยจะไปจ.เชียงใหม่ จะไปสุดถึงอ.อมก๋อยและลงพื้นที่ภาคใต้ที่มีสส.เขต ก้าวไกล หรือพื้นที่ที่มีสส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อยู่ในพื้นที่แต่ไม่ชนะสส.เขตรวมถึงเดินทางไปต่างประเทศนิวยอร์กมหาวิททยาลัย Cambridge university และญี่ปุ่นนิวซีแลนด์ ซึ่งใช้เวลาตอนนี้เขย่าการเมืองไทยทั้งในและนอกประเทศ โดยเฉพาะอ.อมก๋อย เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีปัญหา เชื่อว่าเสียงของตนจะมีคนฟัง นำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้

ส่วนบทบาทตามกฎหมายขณะนี้ยังเป็นรักษาการหัวหน้าพรรคอยู่จนกระทั่งถึงวันที่ 23 กันยายนนี้ที่จะมีการประชุมวิสามัญพรรค แต่ยืนยันชัดว่าในวันนั้นจะมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่และหัวหน้าพรรคใหม่ ส่วนวันที่ 24 ที่ดินแดงจะเป็นอีเวนท์กิจกรรมของพรรคที่แยกออกมา ยืนยันทั้ง 2 วันเป็นงานที่แยกออกจากกัน ซึ่งหลังจากวันที่ 24 กันยายน จะเป็นงานของฝ่ายค้านเชิงรุกเป็นต้นไป ตามที่ประกาศไว้

ดังนั้นการเลือกกรรมการบริหารพรรคมี 2 ประเด็นคือขึ้นอยู่กับการประชุมวิสามัญของพรรค ไม่เกี่ยวว่าสมาชิกจะเห็นว่าใครควรที่จะเป็นหัวหน้าพรรคและขึ้นอยู่กับตัวผู้ถือเลือกเสนอชื่อหรือคนจะยอมเป็นหรือไม่ แต่ส่วนตัวมีความเห็นว่าคนที่เหมาะสมเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่มี 4-5 คน ที่พร้อมเป็นหัวหน้าพรรคแทนตน จึง ไม่กังวลใจในช่วงระยะเวลาที่จะถึงนี้ เพราะพรรคก้าวไกลไม่ได้มีเจ้าของที่จะสามารถสืบทอดอำนาจได้ว่าหัวหน้าคนที่สองคนที่สามจะเป็นใคร แต่พรรคฯมีระบบ มีกฎหมายประกอบการเมือง มีข้อบังคับพรรค เชื่อว่าพรรคก้าวไกลมีความพร้อมอย่างน้อยทุกคนคิดออกว่าสมควรที่จะเป็นใคร หนึ่งในนั้น มีน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ตนมองส่วนตัวว่า เป็น 1 ใน 4 คน ที่มีความเหมาะสม แต่มุมมองคนอื่นเป็นยังไงยังคงมีเวลาที่จะเลือก //ในช่วงตนรอคำสั่งศาลจากรัฐธรรมนูญ

ส่วนในอนาคตหากศาลมีมติ และมีการคืนสถานะสส.ให้จะมีโอกาสกลับมาหรือไม่นั้นเป็นเรื่องของอนาคต เป็นเรื่องของข้อบังคับพรรคและสมาชิกไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่ตนเองไม่ปฏิเสธที่กลับมา

ส่วนการประกาศลาออกไปก่อนสะท้อนถึงความไม่มั่นใจคำตัดของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้นมองว่าไม่ไม่เกี่ยวข้องกัน ซึ่งยังมีความมั่นใจในเรื่องของการขับเคลื่อนพรรคในฐานะฝ่ายค้าน ฐานะพรรคอันดับหนึ่งอย่างมั่นใจเกิน 100 แต่ในรูปของคดียังรอกระบวนการ ยืนยันว่าตนจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ พร้อมมั่นใจว่าไม่มีปัญหาอะไร แม้ว่าจะถูกคำวินิจฉัยของคณะกรรมการการเลือกตั้งไปก่อนแล้ว

ส่วนกรณีมีกระแสข่าวขับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ออกจากพรรคก้าวไกล เพื่อรักษาตำแหน่งรองประธานสภา นั้นคงต้องรอหลังประชุมวิสามัญพรรคก่อน และเป็นหน้าที่ของกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ที่จะหารือกับนายปดิพัทธ์ คงต้องรอวันนั้น เพื่อฟังความคิดเห็นจากตัวนายปดิพัทธ์ด้วย

ทั้งนี้ นายพิธา กล่าวว่า ดีใจที่ติดอันดับ 100 ผู้มีอิทธิพล ของนิตยสารไทม์ ดีใจทั่วโลก ไม่ใช่แค่ประเทศไทย ที่มีความพยายามเขย่าการเมืองไทย ขยับเขยื้อนให้ไทย มีส่วนสำคัญในบริบทอาเซียน และทั่วโลก สร้างความสมดุลระหว่างประเทศมหาอำนาจ

ส่วนจะพูดกับแฟนคลับพรรคก้าวไกลอย่างไรนั้น นาย พิธา กล่าวว่า เจอกันทั่วประเทศ ทั่วโลก และกว่าจะพบกันใหม่

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม