‘เศรษฐา’ นั่งเอ็มอาร์ทีเดินตลาดฟังปัญหาปากท้อง-ของแพง

31 ส.ค. 66

เศรษฐานายกรัฐมนตรี เดินตลาดฟังปัญหาปากท้อง-ของแพง รับปากหลังถวายสัตย์ฯ เร่งแก้ทันที ส่วนค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายขอพิจารณาอีกครั้ง

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ พรรค พท.ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง, นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินเท้าออกจากพรรค พท. เพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้ามหานครใต้ดินเอ็มอาร์ทีสถานีเพชรบุรี ไปลงสถานีสุทธิสารเพื่อไปตลาดเมืองไทยภัทร

โดยระหว่างทางได้แวะทักทายพ่อค้าแม่ค้า เช่น ร้านผลไม้ ข้าวไข่เจียว ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงราคาไข่ไก่ น้ำมันพืช และแก๊สหุงต้ม โดยนายเศรษฐารับปากว่าหลังถวายสัตย์ฯจะรีบแก้ไขปัญหาโดยเร็ว โดยมีประชาชนให้ความสนใจขอถ่ายเซลฟี่กับนายเศรษฐา ซึ่งนายเศรษฐาก็ได้ถ่ายภาพอย่างเป็นกันเอง

จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะ ได้ลงไปที่รถไฟฟ้า สถานีเพชรบุรีและแลกเหรียญโดยสารด้วยตนเอง ก่อนจะต่อแถวขึ้นรถไฟฟ้าตามปกติ ในระหว่างการเดินทางนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้รายงานสถานการณ์การใช้บริการรถไฟฟ้าของประชาชนให้นายกรัฐมนตรีทราบ

ต่อมา นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ เดินทางมาถึงตลาดเมืองไทยภัทร ซึ่งมีประชาชนที่ทราบข่าวมารอให้การต้อนรับ พร้อมถือป้ายรูปนายเศรษฐา พร้อมข้อความ “นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของคนไทย” นอกจากนี้ ยังมีแม่ค้าพ่อค้า ตะโกนว่า “นายกชื่อเศรษฐา แม่ค้าเป็นเศรษฐี” ซึ่งตลอดเส้นทางนายเศรษฐาได้แวะพูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้าเพื่อสอบถามเกี่ยวกับการค้าขายในช่วงที่ผ่านมา

จากนั้นได้แวะซื้อเกาลัด 10 ถุง ช่วงหนึ่งนายเศรษฐา ได้พบกับนางนวลพรรณ ล่ำซำ หรือมาดามแป้ง กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เมืองไทยประกันภัย ที่มาแวะซื้อผลไม้และแนะนำให้นายเศรษฐาชิมผลไม้ โดยนายกรัฐมนตรีบอกว่า “อร่อยดี” จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้แซวกลับมาดามแป้งว่า “สวัสดีครับท่านนายกฯ (นายกสมาคมฟุตบอล)” ทำให้นางนวลพรรณ กล่าวตอบกลับว่า “สวัสดีค่ะนายกฯ”

ต่อมา นายกรัฐมนตรีได้แวะดูแผงล็อตเตอรี่และซื้อล็อตเตอรี่ชุดละ 5 ใบ รวม 13 ชุด โดยนายกรัฐมนตรีเป็นคนเลือกเอง แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าเลือกเลขอะไรบ้าง ทั้งนี้ ระหว่างที่เดินนายเศรษฐาได้แวะทักทายตำรวจจราจร และได้สอบถามพร้อมรับปากว่าจะดูแลเรื่องสวัสดิการ ความเป็นอยู่ของตำรวจชั้นประทวน

ช่วงหนึ่งมีหญิงสาวรายหนึ่งสวมเสื้อสีเขียวสะท้อนแสง ตะโกนว่า “นายกต้องพิธาคนเดียวเท่านั้น คนนี้ไม่ใช่นายก เพราะไปขโมยเขามา” แต่นายกรัฐมนตรีไม่ได้ยิน ก่อนที่หญิงสาวคนดังกล่าวจะเดินหนีออกไป

จากนั้นเวลา 13.20 น. นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์ภายหลังการลงพื้นที่ว่า ส่วนใหญ่ที่รับฟังความคิดเห็นเป็นเรื่องของค่าของชีพ ค่าน้ำมัน ราคาแก๊ส และไฟ ทำให้วัตถุในการประกอบการทำอาหารแพงขึ้น โดยการแก้ปัญหาต้องแก้ที่รากฐาน ซึ่งเมื่อวานนี้ (30 สิงหาคม) ได้มีการพูดคุยกันแล้ว ซึ่งเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าหากมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรกจะมีการประกาศนโยบายออกไป ส่วนเรื่องของตัวเลขต้องมีการพิจารณาก่อน ขอให้ใจเย็นอีกนิดหนึ่ง ขอให้ทราบตัวเลขที่แน่นอนก่อนแล้วจะแจ้งให้ทราบ

เมื่อถามว่า วันนี้นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ทีมาพบปัญหาว่าในช่วงเวลาเร่งด่วน ตู้โดยสารไม่เพียงพอ จะมีแผนรองรับอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงระบุว่าจะมีการเพิ่มตู้ ขณะนี้กำลังสั่งซื้ออยู่ ทั้งนี้ ตนได้พูดคุยกับผู้โดยสาร ซึ่งก็มีการตอบรับที่ดีว่าสะดวกสบาย ราคาเหมาะสม แต่ในช่วงเร่งด่วน จำนวนตู้โดยสารก็มีน้อยเกินไป

เมื่อถามว่า ราคาค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย จะเริ่มได้เมื่อไหร่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องขอไปพิจารณาก่อน จริงๆแม้จะบอกว่าเป็นนโยบายของพรรค พท. แต่เราไม่ได้เป็นรัฐบาลพรรคเดียว เรามีพรรคร่วมรัฐบาลอีก 10 พรรค ฉะนั้น จึงต้องไปพิจารณานโยบายโดยรวมก่อน ส่วนจะเป็นราคา 20 บาททุกสายและใช้กับผู้ที่มีรายได้น้อยก่อนหรือไม่นั้น ต้องนำไปพิจารณาก่อนเช่นเดียวกัน

เมื่อถามว่าการลดค่าไฟจะสามารถทำได้ในระยะเวลา 4 เดือนเลยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า คงทำได้ก่อน ส่วนจะเป็นราคา 4.25 บาท ตามที่ภาคอุตสาหกรรมเรียกร้องหรือไม่นั้น ต้องขอไปพิจารณาก่อน แต่ก็เข้าใจโจทย์ว่าต้องการเท่าไหร่ และจะพยายามจนสุดความสามารถ ทั้งนี้ ที่ไม่อยากบอกตัวเลขก่อน เพราะเดี๋ยวจะมีการผิดเพี้ยน แล้วมาต่อว่ากันได้ ขอให้ใจเย็นนิดหนึ่ง

“จะถามกี่ครั้งก็ตอบไปไม่ได้มากกว่านี้ แต่ก็อยากจะตอบเหมือนกัน แต่อยากมีความมั่นใจในการตอบ” นายเศรษฐา กล่าว

เมื่อถามถึง กรณีที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลาออกจากสส.บัญชีรายชื่อเสียดายหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นเรื่องของพรรค พปชร. ท่านก็เป็นบุคคลที่ทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติมานาน ซึ่งก็ไม่ทราบสาเหตุจริงๆ ว่าทำไมพล.อ.ประวิตรจึงลาออก ส่วนตัวเคยคุยโทรศัพท์กับพล.อ.ประวิตรแค่นิดเดียว ยังไม่เคยเจอตัว เมื่อเข้าทำเนียบแล้วก็อยากจะเชิญ พล.อ.ประวิตร มารับประทานอาหาร

เมื่อถามว่า อยากให้ความมั่นใจกับประชาชนเรื่องเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะไม่มีอะไรมาสะดุดแล้วใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมามีการเชิญหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องมารับฟังความคิดเห็น ซึ่งได้มีการดูเรื่องรายละเอียด แต่หากวันไหนที่สามารถออกโครงการได้ จะแจ้งให้ทราบ แต่คิดว่าเป็นไตรมาสหนึ่งแน่นอน

เมื่อถามว่าเมื่อสักครู่แซวนางนวลพรรณว่านายกฯ เช่นกัน นายเศรษฐา กล่าวว่า “ก็ท่านสมัครนายกสมาคมฟุตบอล และรู้สึกว่าใครที่จะไปแข่งกับท่านก็ถอนตัวหมด ส่วนตัวผมก็รู้จักกับคุณแป้งมานาน ก็เป็นกำลังใจให้”

นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า เมื่อสักครู่ที่เดินมาก็เจอกับตำรวจเยอะ เมื่อวานนี้ส่วนหนึ่งก็ได้คุยกับหลายท่าน โดยเฉพาะนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลเรื่องการแก้ไขหนี้สินก็ได้ฝากไว้ว่าหนี้สินของตำรวจมีเยอะ ซึ่งเราก็รับทราบ และจะให้เป็นมาตรการช่วยเหลือ รวมถึงพี่น้องประชาชนที่มีรายได้น้อยทุกภาคส่วน ต้องได้รับการดูแล วันนี้ก็ได้มีการคุยกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) ไปแล้ว ในเรื่องของการพักหนี้เกษตรกร ซึ่งก็กำลังดูอยู่ว่าจะทำไปในจำนวนเงินเท่าไหร่ แต่ทั้งนี้ทำไปเพื่อการดูแล และเป็นการพักหนี้ชั่วคราวเพื่อให้มีการฟื้นฟูเกิดขึ้นก่อน.

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม