ตร.ทองหล่อ แจ้งข้อหาหนัก เสี่ยรถเบนซ์ ปืนขู่วินจยย. ค้นรถเจอ "ยาไอซ์"

25 ส.ค. 66

เปิดชนวนเดือดย่านไฮโซ เสี่ยเบนซ์อ่อนไหวเสียงแตร ชักปืนขู่วินจยย. หลังเหตุการณ์สงบ ตร. ค้นรถเจอปืน ยาไอซ์ และสวมทะเบียนปลอม

เมื่อเวลา 14.50 พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ทองหล่อ ออกให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงเหตุการณ์ชุลมุนระหว่างคนขับรถเบนซ์กับวินมอเตอร์ไซค์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

โดย พ.ต.อ.พันษา ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเริ่มต้นจากการที่กลุ่มรถเบนซ์ กำลังเดินทางกลับมาจากการปาร์ตี้เพื่อไปส่งเพื่อน ปรากฏมาถึงจุดเกิดเหตุมีวินมอเตอร์ไซค์ 3 คันที่กำลังขี่ไปรับลูกค้าขับบริเวณด้านหน้า ด้วยความเร่งรีบจึงพยายามขับปาดหน้าเพื่อแซงรถมอเตอร์ไซค์กลุ่มดังกล่าวด้วยความเร็ว จึงทำให้วินมอเตอร์ไซค์บีบแตรเตือน

ทางคนขับรถเบนซ์เกิดความไม่พอใจ จึงเปิดกระจกมาต่อว่าวินมอเตอร์ไซค์พร้อมชูนิ้วกลางให้ แล้วขับมาจอดขวางถนน ก่อนจะลงมาปรี่ชกต่อยกับวินมอเตอร์ไซค์จนเกิดเหตุชุลมุน  เนื่องจากมีมอเตอร์ไซค์จำนวนมากมาช่วยห้ามและปกป้อง ซึ่งทางฝั่งคนขับรถเบนซ์ได้ชักอาวุธปืนมาข่มขู่บรรดาวินมอเตอร์ไซค์ด้วย ตามที่ปรากฎเหตุการณ์ในคลิป

หลังจาก ตำรวจ สน.ทองหล่อได้รับแจ้งเหตุ จึงได้ส่งชุดปราบปรามเข้าไประงับเหตุและตรวจค้นรถยนต์เบื้องต้น ปรากฏพบว่ามี ยาไอซ์ จำนวน 2 ขีดอยู่บริเวณด้านท้ายของรถเบนซ์ พบอาวุธปืนไม่มีทะเบียน ขนาด .25 ซุกซ่อนบริเวณใต้เบาะหน้าที่นั่งฝั่งคนข้างคนขับ มีผู้ชาย 2 คน สาวประเภทสอง 2 คน และผู้หญิง 2 คน จากการนำตัวไปตรวจหาสารเสพติดที่โรงพยาบาล พบสารเมตแอมเฟตามีนในร่างกายทุกคน จึงนำตัวมาดำเนินคดีที่ สน.

นอกจากนี้จากการตรวจค้นรถเบนซ์คันดังกล่าว พบว่าได้ติดป้ายทะเบียนปลอม เนื่องจากตรวจสอบป้ายทะเบียนในระบบของกรมการขนส่งทางบก ไม่พบ หมายเลขทะเบียนรถยนต์คันดังกล่าว

จากการสอบปากคำคนขับรถเบนซ์ เบื้องต้นยังให้การสับสน เพราะตอนแรกคนขับรถเบนซ์บอกว่า รถคันนี้เป็นรถของเพื่อน แต่ภายหลังกลับให้การกลับกันว่า ตนได้นำรถคันนี้มาซ่อมที่อู่ แล้วตอนเช้าเอารถมาลองขับ 

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่า ตัวคนขับรถเบนซ์ประกอบอาชีพธุรกิจเสื้อผ้า ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการซ่อมรถยนต์แต่อย่างใด จึงยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของคนขับรถเบนซ์ ซึ่งก็ต้องสอบปากคำโดยละเอียดอีกครั้ง

นอกจากนี้ยังพบว่ารถยนต์คันนี้นั้น เจ้าของตัวจริงอยู่ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แต่ไม่รู้ว่าเจ้าของรถยนต์ทราบหรือไม่ว่าติดป้ายทะเบียนปลอม

สำหรับผู้โดยสารทั้ง 6 ราย ถูกแจ้งข้อหาดังต่อไปนี้

1) นายชาวิญญ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี คนขับรถเบนซ์ แจ้งข้อหาครอบครองและพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ / ใช้ป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอม / ร่วมครอบครองยาเสพติดประเภทที่ 1 เพื่อจำหน่าย / เสพยาเสพติดประเภทที่ 1 เมทแอมเฟตามีน / และข้อหาตาม พ.ร.บ.การจราจร

2) นายยุทธนา (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ผู้โดยสารนั่งข้างคนขับ แจ้งข้อหาครอบครองยาเสพติดประเภทที่ 1 / และร่วมกันครอบครองยาเสพติดประเภทที่ 1 ไว้เพื่อจำหน่าย

3) น.ส.ธามน (สงวนนามสกุล) ผู้โดยสารนั่งเบาะท้าย อายุ 34 ปี แจ้งข้อหาเสพยาเสพติดประเภทที่ 1

4) นายปัญจรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ผู้โดยสารนั่งเบาะท้าย แจ้งข้อหาเสพยาเสพติดประเภทที่ 1

5) น.ส.จิรันธนิน (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ผู้โดยสารนั่งเบาะท้าย แจ้งข้อหาเสพยาเสพติดประเภทที่ 1

6) นายอิทธิพัทธ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ผู้โดยสารนั่งเบาะท้าย แจ้งข้อหาเสพและครอบครองยาเสพติดประเภทที่ 1

นอกจากนี้ยังพบว่า นายชาวิญญ์ คนขับรถเบนซ์มีประวัติต้องโทษในคดีอาชญากรรมหลายคดี ได้แก่ คดีทำให้เสียทรัพย์และข่มขู่ผู่อื่น ท้องที่ สน.สุทธิสาร ปี 2556 / คดีทำร้ายร่างกายผู้อื่น ท้องที่ สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ปี 2555 / คดีบุกรุกที่ดิน อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ปี 2553

ส่วนประเด็นที่นายชาวิญญ์ อ้างว่าเป็นตำรวจและรู้จักกับตำรวจระดับสูงนั้น เป็นการกล่าวอ้างมากกว่า และจากการตรวจสอบแล้วไม่เป็นความจริง โดยนายชาวิญญ์ให้การว่า ตัวเองไม่ได้กล่าวอ้างว่าตนเป็นตำรวจและไม่รู้จักกับตำรวจระดับสูงแต่อย่างใด

ส่วนนายยุทธนาที่ถูกระบุว่าเป็นบุตรชายของตำรวจนั้น จากการตรวจสอบพบว่า นายยุทธนาเป็นลูกของตำรวจจริง แต่เป็นเป็นตำรวจชั้นประทวน ยศดาบตำรวจใน จ.พระนครศรีอยุธยาและเกษียณอายุราชการแล้ว

โดยหลังจากนี้ จะนำตัวทั้ง 6 รายไปแจ้งข้อหาและสอบปากคำตลอดทั้งคืนนี้ คาดว่าจะสามารถนำตัวไปฝากขังต่อศาลอาญาได้ในวันพรุ่งนี้เวลา 10.30 น.

อีกทั้งจะต้องเรียกทั้งวินมอเตอร์ไซค์ที่เห็นเหตุการณ์ วินมอเตอร์ไซค์ที่บาดเจ็บและเจ้าของรถเบนซ์มาสอบปากคำเพิ่มเติม ส่วนประเด็นที่กลุ่มวินมอเตอร์ไซค์กลัวว่า กลุ่มผู้ต้องหาจะเป็นพวกผู้มีอิทธิพลนั้น ทางผู้กำกับการยืนยันว่า จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด โดยไม่สนใจว่าใครจะมีอิทธิพลอย่างไร

ต่อมาเวลา 15.10 น. เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้เดินทางมาตรวจค้นหาพยานหลักฐานและลายนิ้วมือแฝงในรถเบนซ์เพิ่มเติม ส่วน 6 ผู้ต้องหานั้นจนถึงเวลา 16.20 น. ยังอยู่ในระหว่างการบันทึกการจับกุม

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส