กระบะเมาแล้วขับ กลับรถกะทันหัน ตัดหน้าก๊วนมอเตอร์ไซค์ที่ออกตัวมาจากแยกไฟแดง เบรกไม่ทัน ชนสนั่นซากรถกระจาย ตาย 1 สาหัส 4
เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 19 สิงหาคม 66 ศูนย์กู้ชีพปราการได้รับแจ้งจากสายด่วน 1669 ว่ามีอุบัติเหตุรถชนกันหลายคันมีผู้บาดเจ็บสาหัสหลายราย เหตุเกิดบนถนนปู่เจ้าสิงพราย ตำบลสำโรงใต้ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ จึงสั่งการระดมทั้งรถพยาบาลและอาสามัครกู้ภัยป่อเต็กตึ๊งไปตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือ
พอเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงก็พบว่ามีรถชนกันหลายคันและมีผู้บาดเจ็บนอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดรอความช่วยเหลืออยู่หลายราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยจึงช่วยกันปฐมพยาบาลและช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้งหมด 4 ราย ซึ่งอาการสาหัสส่งโรงพยาลบาลใกล้เคียง นอกจากนั้นในที่เกิดเหตุยังพบร่างของคนขับรถจักรยานยนต์อีกคันบาดเจ็บสาหัสและทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตคาที่ ท่ามกลางประชาชนจำนวนมากที่มาดูเหตุการณ์ในครั้งนี้
ส่วนที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรถกระบะอีซูซุ สีน้ำเงิน ลักษณะทรงแต่งซิ่ง จอดขวางถนนในสภาพด้านด้านฝั่งซ้ายพังยับ โดยมีรถจักรยานยนต์ 350 ซีซี ล้มระเนนระนาดอยู่ทั้งหมด 5 คันในสภาพพังเสียหายยับเยินเช่นกัน นอกจากนั้นยังพบชิ้นส่วนรถกระจัดกระจายเกลื่อนพื้นถนนอีกด้วย
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนให้การสอดคล้องตรงกันว่า พบเห็นรถกระบะสีน้ำเงินคู่กรณีขับมาจากฝั่งท่าน้ำพระประแดงจนมาถึงที่เกิดเหตุได้เลี้ยวกลับรถกะทันหัน ซึ่งเป็นจังหวะที่รถจักรยานยนต์กลุ่มนี้ทั้ง 5 คันจับกุล่มออกตัวด้วยความเร็วจากแยกไฟแดงวัดสวนส้มพอดี จึงเบรกไม่ทันพุ่งชนอย่างจังพร้อมกัน 5 คัน จนทำให้คนขับรถจักรยานยนต์ทั้งหมดกระเด็นไปคนละทิศคนละทาง
ส่วนนายนิกร อายุ 40 ปี คนขับรถกระบะคันเกิดเหตุบอกว่าตนเองเพิ่งออกมาจากร้านเหล้าแถวท่าน้ำพระประแดงกำลังมุ่งหน้ากลับบ้านแถวมหาวงศ์ แต่ยังไม่ทันถึงบ้านอ้างว่าเพื่อนโทรตามให้กลับไปกินต่อจึงเปิดไฟเลี้ยวเพื่อเลี้ยวกลับรถไปหาเพื่อน แต่กลุ่มรถจักรยานยนต์คู่กรณีพากันแข่งมาด้วยความเร็วจึงพุ่งชนรถตนเองอย่างแรง ยอมรับว่าดื่มมาจริงแต่ยังมีสติดี
จากนั้นทางตำรวจได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ของนายนิกร คนขับกระบะ มีปริมาณแอลกอฮอล์ 97 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ซึ่งเกินกว่าตามที่กฎหมายกำหนด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาขับรถขณะมึนเมาสุราขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต ทรัพย์สินได้รับความเสียหายจากนั้นทางที่ตำรวจจึงส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
