ก่องข้าวน้อยฆ่าพ่อ! ลูกทรพีทาสยา ฟันหัวพ่อดับ อ้างโมโหหิวจะกินข้าวแต่โดนด่า

2 ส.ค. 66

ก่องข้าวน้อยฆ่าพ่อ! ลูกทรพีทาสยา ฟันหัวพ่อดับ อ้างโมโหหิวจะกินข้าวแต่โดนด่า ก่อนจะไปอาบน้ำแล้วกลับมานั่งที่จุดเดิม

วันที่ 1 สิงหาคม 2566 เวลา 20.50 น. พ.ต.ท.เศรษฐวิทย์ คุณเศรษฐ์ สารวัตร  สอบสวน  สภ.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุลูกใช้มีดฟันพ่อเสียชีวิต ที่กระท่อมนา ท้ายบ้านโนนมะเขือ ต.บ้านตาด จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.ศิริมงคล บุญหนุน รอง ผกก. สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ปฎิบัติหน้าที่หัวหน้า สภ.โนนสูง ,พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ ฉวีทอง รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี, ร.ต.อ.อุดมโชค สิงหกุลศิริ รอง สว.สส.สภ.โนนสูง ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ตำรวจสืบสวนกองกำกับการตำรวจภูธร จ.อุดรธานี แพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรม รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นเถียงนาไม้ยกพื้นสูง หลังเถียงนาพบศพนายอุบล อายุ 57 ปี นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดที่พื้นดิน สภาพศพไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ใส่รองเท้าฟองน้ำสีเขียว จากการชันสูตรพบถูกฟันด้วยของมีคมบริเวณศีรษะด้านหลัง 1 แผลลึกถึงกะโหลก พบมีดพร้าวางอยู่ข้างโอ่งน้ำ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ใกล้มีกระติบข้าวเหนียว โดยข้างในมีข้าวเหนียวและน้ำพริกปลาร้า1กระปุก ส่วนฆาตกรคือ นายอุ้มบุญ อายุ 32 ปี ลูกชายผู้ตาย หลังก่อเหตุได้ขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นั่งอยู่บนเถียงนา ตำรวจจึงเข้าจับกุม 

จากการสอบสวนนายอุ้มบุญผู้ต้องหายังให้การสับสน วกไปวนมา จับใจความได้ว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้เดินไปเอากระติบข้าวกับน้ำพริกปลาร้าขึ้นมากินบนเถียงนา แต่โดนพ่อด่าว่าอย่าเอาข้าวมากินบนเถียงนา และบ่นอีกหลายเรื่อง ทำให้รู้สึกโมโห จึงคว้าไม้ตีพ่อไป 3 ครั้ง จากนั้นตนก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้านั่งอยู่บนเถียงนา ซึ่งตนยอมรับว่าวันนี้ตนเสพยาบ้าไป 2 เม็ด กินเหล้าขาว 3 แก้วเล็ก คิดว่าต้องถูกจับ เลยรีบไปอาบน้ำ

ส่วนนางนิตยา ก้อนทอง อายุ 39 ปี หลานผู้ตาย เล่าว่า ผู้ตายเป็นน้องชายแม่ตน เป็นพ่อหม้ายเมียหนีตอนลูกอายุได้ 1 ปี ผู้ตายอาศัยอยู่เถียงนาของป้าตน กับนายอุ้มบุญลูกชาย 2 คน ซึ่งก่อนหน้านี้นายอุ้มบุญเคยไปทำงานรับจ้างที่ต่างจังหวัด และพึ่งกลับมาอยู่กับผู้ตายได้ 4-5 เดือน ซึ่งนายอุ้มบุญจะเป็นคนไม่ค่อยพูด ไม่สุงสิงกับใคร และไม่ยอมไปทำงาน ซึ่งญาติพี่น้องก็ให้พ่อและลูกทำงานในไร่นา พอตกเย็นผู้ตายก็จะขึ้นมาเอากับข้าวที่บ้านตน ลงไปกินด้วยกันกับนายอุ้มบุญที่เถียงนา เป็นประจำทุกวัน

ก่อนเกิดเหตุ วันนี้ญาติพี่น้องทุกคนได้ไปช่วยกันดำนา แต่ผู้ตายและนายอุ้มบุญไม่ได้ไปช่วย มีแต่ผู้ตายเดินไปพูดคุยด้วยเท่านั้น ประมาณ 18.30 น. ญาติทุกคนกลับมาที่บ้าน มาเตรียมหุงหาอาหารเย็น 19.00 น. ก็ได้ยินเสียงทั้ง 2 คน ตะโกนด่ากัน แล้วก็เงียบเสียงไป ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติของพ่อลูกคู่นี้ ป้าตนจึงบอกให้ลูกชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับตนไปดู เมื่อกลับมาบอกว่านายอุบลถูกฆ่าตาย ศพอยู่หลังเถียงนา นอนจมกองเลือด ตนจึงแจ้งเจ้าหน้าที่

ส่วนนายสมใจ อายุ 71 ปี พี่ชายผู้ตาย เล่าว่า ผู้ตายเคยมาบอกตนว่า จะไปนอนที่อื่นไม่กล้าอยู่กับลูก กลัวลูกฆ่า เพราะลูกกินเหล้า สูบกัญชา เสพยาบ้า แต่ผู้ตายก็ไม่หนีเพราะห่วงลูก ลูกไม่ยอมทำงานผู้ตายจะออกไปหาปูหาปลาตามท้องนาให้ลูกกิน ถ้าไม่มีข้าวกิน ผู้ตายก็จะขึ้นไปเอาข้าวเหนียวที่บ้านพี่สาวมาให้ลูกชายกิน 

ตำรวจจึงควบคุมตัว พร้อมของกลาง และแจ้งข้อหานายอุ้มบุญ “ฆ่าบุพการี” ไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนศพผู้ตายได้มอบให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส