เลขาธิการ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ย้ำใช้อำนาจเป็นกลาง ปมยื่นสอบมติรัฐสภา

28 ก.ค. 66

 

เลขาธิการ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ย้ำใช้อำนาจเป็นกลาง ปมยื่นสอบมติรัฐสภาครบองค์ประกอบ ส่ง ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้ 

วันที่ 28 ก.ค. 66 พ.ต.ท. กีรป กฤตธีรานนท์ เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดให้ ผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นผู้วินิจฉัย และเสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ในกรณีที่สมาชิกรัฐสภาและประชาชน ยื่นเรื่องขอให้ ผู้ตรวจการแผ่นดิน เสนอคำร้องต่อ ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 213 ว่ามติของรัฐสภาเมื่อวันที่ 19 ก.ค. 66 ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของผู้ร้องเรียน 

นอกจากนี้ในคำร้องเรียนได้มีคำขอให้ ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดมาตรการชั่วคราว โดยขอให้มีคำสั่งชะลอการให้ความเห็นชอบบุคคล เพื่อแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีไว้ก่อน จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีการวินิจฉัยในเรื่องนี้ออกมานั้น 

พ.ต.ท. กีรป กล่าวต่อว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ประชุมร่วมกันเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2566 วินิจฉัยว่าคำร้องดังกล่าว เข้าองค์ประกอบ เงื่อนไข และหลักเกณฑ์ ในการเสนอคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องเรียน ประกอบกับหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญพ.ศ. 2561 จึงเห็นว่าเข้าองค์ประกอบและหลักเกณฑ์ที่ผู้ตรวจการแผ่นดินจะเสนอคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพื่อให้เป็นที่ยุติ 

และที่สำคัญในคำร้องเรียนผู้ร้องเรียนได้ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งชะลอการให้ความเห็นชอบบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีไว้ก่อน จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ซึ่งเป็นอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญที่สามารถใช้ดุลยพินิจพิจารณามาตรการหรือวิธีการใด ๆ เป็นการชั่วคราวก่อนการวินิจฉัยได้ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญพ.ศ. 2561 มาตรา 71 โดยผู้ร้องเรียนส่วนหนึ่งเป็นประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และได้ใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง เป็นการแสดงเจตจำนงที่จะได้บุคคลตามบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองไปดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หากมติตีความดังกล่าวของรัฐสภาขัดต่อรัฐธรรมนูญ ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อสิทธิของผู้ร้องเรียน ซึ่งก็เป็นดุลยพินิจของศาลรัฐธรรมนูญที่จะพิจารณาตามความเหมาะสมกับข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ต่อไป

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวการเมือง เป็นกระแส