"วราวุธ ชาติไทยพัฒนา" พร้อมสนับสนุน "เพื่อไทย" ย้ำ ต้องไม่มีพรรคร่วมที่แก้ม.112 หากมีต้องแยกทางกันทำงาน ชลน่าน ยัน ไม่ดันก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน
วันที่ 23 ก.ค.66 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาได้ร่วมแถลงข่าวภายหลังจากการหารือเรื่องแนวทางการจัดตั้งรัฐบาล
โดยนายชลน่าน เปิดเผยว่า ไม่ใช่การเชิญมาเพื่อร่วมจัดตั้งรัฐบาล แต่เชิญมาเพื่อปรึกษาหารือถึงทิศทาง และนวทางการเมือง ภายหลังจากที่ "พรรคเพื่อไทย" ได้รับมอบหมายจาก "พรรคก้าวไกล" ให้ทำหน้าที่ในการเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ภายใต้การร่วมมือของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ได้มีมติร่วมกัน โดยนายชลน่านย้ำว่า เป็นมติของ 8 พรรคร่วม ที่ได้มอบหมายให้พรรคเพื่อไทยทำหน้าที่ในการแสวงหาเสียงสนับสนุนในรัฐสภา
แนวทางที่ 1 ภายใต้ 312 ที่นั่งของ 8 พรรค ไปพูดคุยและหาแนวทาง หาเสียงจาก สว.
แนวทางที่ 2 ให้พรรคเพื่อไทยดำเนินการแสวงหาแนวทางที่จะได้เสียงเพิ่มจากพรรคอื่นๆ ซึ่งแนวทางนี้ทางพรรคเพื่อไทยมองว่าเป็นแนวทางที่สำคัญ ต้องทำในนามของพรรคการเมือง เราจึงเชิญพรรคการเมืองต่างๆ ที่มีอยู่ในสภา เข้ามาพบปะพูดคุยเพื่อให้พรรคต่างๆ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางจัดตั้งรัฐบาลภายใต้ 8 พรรคร่วม ว่ากรณีที่จได้รับเสียงสนับสนุน แต่ละพรรคมีแนวความคิดอย่างไร
ส่วนหนึ่งได้รับข่าวจากสื่อมวลชนถึงการแถลงจุดยืนของแต่ละพรรคการเมือง ยิ่งเป็ฯข้อมูลนำเข้าที่ต้องนำมาพิจารณาและสอบถามข้อเท็จจริงระหว่างคณะกรรมการบริหารของพรรค
พรรคเพื่อไทยได้หารือกับพรรคชาติไทยพัฒนา นำโดย นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค และคณะ เน้นย้ำว่าใช้แนวทางที่ 8 พรรคร่วมได้มอบหมายภาระกิจให้ ไม่ใช่เป็นการเชิญมาเพื่อจัดตั้งรัฐบาล แต่เป็นการหาแนวทางว่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างไร
สำหรับรายละเอียดในการพูดคุยและหารือ นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า เป็นการตอกย้ำจุดยืนของพรรคชาติไทยพัฒนา ต้องเรียนว่าการจะทำงานด้วยกันไม่ว่าจะในมิติใด ทั้งเรื่องของแนวทาง นโยบายจะต้องไปในทิศทางเดียวกัน
หนึ่งในประเด็นที่สำคัญคัญ คือ เราไม่แตะต้อง ไม่แก้ไข ไม่ยกเลิกกฎหมาย ม.112 เป็นหนึ่งในแนวทางสำคัญที่ยึดไว้ ถ้าหากว่าแนวทางของพรรคการเมืองใดที่คิดเช่นเดียวกับพรรคชาติไทยพัฒนา ที่จะไม่แตะต้องมาตรดังกล่าว สามารถพูดคุยและทำงานร่วมกันได้ แต่ถ้าหากพรรคใดมีแนวทางไม่ตรงกันต้องแยกย้ายกันทำงาน นายวราวุธ กล่าว
นอกจากนี้นาย นายวราวุธ ยังกล่าวต่ออีกว่า หากพรรคเพื่อไทยมีแนวคิดทางการเมืองที่ตรงกันกับพรรคของตน ตนก็พร้อมที่จะสนับสนุนหากพรรคเพื่อไทยมีการเสนอชื่อแคนดิเดตเพื่อนั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่การทำงานของพรรคเพื่อไทยจะต้องไม่มีพรรคการเมืองที่มีแนวคิดแตกแยกออกไปจากที่พรรชาติไทยพัฒนาคิดอยู่ หากมีก็คงต้องแยกย้ายกันทำงาน
ส่วนประเด็นที่ผลักดันให้ "พรรคก้าวไกล" เป็นฝ่ายค้านหรือไม่นั้น นายชลน่าน ยืนยันว่า การพูดคุยพรรคการเมืองอื่นๆ นั้นอยู่ภายใต้ข้อตกลงของ 8 พรรคร่วม ซึ่งเป็นกระบวนการและไม่ได้เป็นการผลักพรรคก้าวไกล พร้อมยืนยันว่า ไม่มีลับลมคมใน เมื่อก้าวไกลส่งมอบภารกิจมา ให้แนวทางมาทำงานตามนั้น เพราะฉะนั้นทุกสิ่งที่ทำเป็นกระบวนการ หากถามว่าเพื่อไทยเอาอย่างไรแน่ ต้องรอให้สมาชิกพรรคการเมืองตอบครบแล้วทุกพรรคและคุยกับ 8พรรคร่วมอีกครั้ง และจะใช้คำตอบจาก 8 พรรคร่วมตอบสื่อมวลชน
