อย่าแพ้แล้วพาล! “ธนกร” ฟาด “ชัยธวัช” ให้เคารพเสียงข้างมากของระบอบประชาธิปไตย อย่าพูดเอาดีเข้าตัวเอาชั่วใส่คนอื่น
วันที่ 14 กรกฎาคม 2566 จากกรณีที่ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวอมรินทร์ทีวี ออนไลน์ ว่า พรรคก้าวไกลจะร่วมหารือกับพรรคเพื่อไทยเป็นการภายใน ถึงแนวทางการผลักดัน “นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี ขณะเดียวกัน ยังต้องเดินหน้าประสานกับ ส.ว. เพื่อขอคะแนนเสียง พร้อมกันนี้ก็จะเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 เพื่อปิดสวิตช์ ส.ว. ในนามของพรรค คู่ขนานไปกับการโหวตนายกฯ
ล่าสุดนายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึง กรณีที่นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการของพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์อ้างว่าขั้วอำนาจเก่าพยายามกดดัน ส.ว. ไม่ให้โหวตเลือก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อหวังพลิกขั้วรัฐบาล ว่า เลขาพรรคก้าวไกลต้องยอมรับในระบบประชาธิปไตยอย่างที่เคยใช้มาตลอด การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีก็เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เมื่อผลออกมาแพ้โหวตแล้วกลับจะมาโจมตีพาดพิง อ้างว่ามีอำนาจเก่ากดดัน ส.ว. ไม่ให้โหวตสนับสนุนอย่างนั้นอย่างนี้
.jpg "ธนกร")
ตนคิดว่า นายชัยธวัช ควรมีวุฒิภาวะมากกว่านี้ไม่ใช่ แพ้แล้วพาล ควรมองตัวเองว่ามีคุณสมบัติครบหรือไม่ และที่สำคัญประเด็นการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่ทุกฝ่ายไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว จึงไม่ควรอ้างและกล่าวหาว่าสาเหตุที่แพ้ผลโหวตมาจากขั้วอำนาจเก่า ซึ่งหากรอบแรกไม่ผ่าน รอบต่อไปก็ควรเป็นความชอบธรรมที่จะให้พรรคอันดับที่ 2 เสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ตามกระบวนการ เพราะยื้อต่อไปก็ไม่เห็นชัยชนะ
โดย นายธนกร เผยว่า “อย่างที่พรรคก้าวไกลพูดย้ำอยู่เสมอว่าให้เคารพเสียงข้างมาก วันนี้ก็ขอให้เคารพเสียงข้างมากของสมาชิกรัฐสภาที่ไม่เห็นด้วย ไม่สนับสนุนนายพิธาตามระบบรัฐสภา ที่เป็นประชาธิปไตย อย่าแพ้แล้วพาลโทษคนอื่นขอให้กลับไปทบทวนตัวเอง มีวุฒิภาวะมากกว่านี้ อย่าพูดเอาดีเข้าตัวเอาชั่วใส่คนอื่นแบบนี้ไม่ใช่สุภาพบุรุษ”
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า นายชัยธวัช ยังบอกว่าจะสู้จนถึงที่สุด เพราะให้สัญญาประชาชนจำนวนมากที่ยังสนับสนุน จึงถอยเรื่องนี้ไม่ได้ และยังเสนอสภาปิดสวิตช์ ส.ว. ยกเลิกมาตรา 272 ไม่ให้อำนาจกับ ส.ว. ด้วย นายธนกร กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า การเดินแนวทางนี้ของพรรคก้าวไกลกำลังเป็นการปลุกระดมมวลชนในทางอ้อม จะเห็นได้ว่าเมื่อวานนี้มีการนัดหมายมวลชนในทุกจังหวัดเพื่อติดตามผลการโหวตเก้าอี้นายกกรัฐมนรี ต้องการนำสถานการณ์ไปให้ถึงความสุกงอมโดยเอาประชาชนเป็นตัวประกัน จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคง ความมีเสถียรภาพของประเทศ กระทบต่อเศรษฐกิจทั้งหมด ตนมองว่า หากพรรคก้าวไกล นึกถึงบ้านเมืองประเทศชาติ และประชาชนจริง ก็ขอให้ทบทวน
