หนูน้อยยอดกตัญญู! เก็บของเก่าขาย หาเงินเลี้ยงแม่พิการเดินไม่ได้

6 ก.ค. 66

สุดรันทด! หนูน้อย 11 ปี ยอดกตัญญูเก็บของเก่าขาย หาเงินเลี้ยงแม่พิการเดินไม่ได้ ไม่มีไฟฟ้าใช้ สภาพบ้านมีความเป็นอยู่อย่างลำบาก

6 ก.ค. 66 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายนพพล ทองดี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตะโกล่าง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี  ว่ามีเด็กชายอายุ 11 ปี เดินเก็บขวดระหว่างทางกลับบ้านเพื่อนำไปขายหาเลี้ยงแม่แท้ ๆ ที่พิการเดินไม่ได้มากว่า 3 ปี

หนูน้อย

ทางผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่โรงเรียนดังกล่าว พบกับนางสาวปาริฉัตร วงศ์อัยรา ครูประจำชั้นของนักเรียนชั้นป. 6 ก็ทราบว่า ได้มาเจอบ้านนี้เพราะทางโรงเรียนได้มีการจัดกิจกรรมเยี่ยมบ้านนักเรียน  โดยในระหว่างการดำเนินกิจกรรมนั้นก็ได้ไปที่บ้านของ ด.ช.ศรัณย์ จำเริญ อายุ 11 ปี แต่ที่ผ่านมาเพื่อน ๆ ในห้องก็จะพูดว่าที่บ้านของ ด.ช.ศรัณย์ มีโซล่าเซลล์ด้วย ก็คิดว่ามีเงินมีฐานะ พอมาเจอกับตาก็รู้สึกสงสาร เพราะห้องน้ำไม่มีประตูต้องใช้ผ้าปิดไว้กันอุจาด ไม่มีไฟฟ้าใช้ ตัวบ้านเองก็ไม่ปลอดภัย มีเพียงแสลนตาข่ายปิดรอบตัวบ้าน   

บ้าน

เบื้องต้น ทราบว่า ด.ช.ศรัณย์ อาศัยอยู่กับแม่ที่พิการตั้งแต่ช่วงล่างเอวลงไปไม่สามารถเดินได้ มือขวามีอาการสั่น ไม่สามารถหยิบจับสิ่งของได้อย่างปกติ สภาพบ้านมีความเป็นอยู่ที่ลำบากมาก รอบบ้านใช้สแลน ปิดเพื่อบังไม่ให้ฝนสาด พื้นบ้านใช้ไม้ไผ่ทุบเป็นซี่แล้วนำมาปูเป็นพื้นบ้าน นอกจากนี้ที่บ้านยังไม่มีไฟฟ้าใช้เนื่องจากไม่มีเงินจ่าย ก็จะอาศัยเพื่อนบ้าน ขอหุงข้าววันละหนึ่งครั้ง ไฟก็จะใช้เพียงแผงโซล่าเซลล์ต่อลงมากับหลอดไฟ ใช้ได้ไม่นานก็หมด

ยอดกตัญญ

ที่ผ่านมาก็จะอาศัยเพื่อนบ้านและญาติ ๆ นำมาแบ่งปันให้และ ด.ช.ศรัณย์ ก็จะคอยออกหาเก็บของเก่า เช่น ขวดน้ำพลาสติก ลังกระดาษ กระป๋องน้ำอัดลม ขวดแก้ว ฯลฯ เก็บรวบรวมนำไปขายเพื่อนำเงินมาจุนเจือครอบครัว ใช้ซื้ออาหารและใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน  

หนูน้อย

ตนก็เลยตัดสินใจบอก ผอ. ให้ติดต่อหน่วยงานที่สามารถช่วยเหลือแม่กับลูกในบ้านหลังนี้ได้  โดยชีวิตประจำวันของ ด.ช.ศรัณย์ ก็จะต้องตื่นตี 5 มาหุงข้าวทอดไข่ให้แม่กินทุกเช้าก่อนจะเดินทางไปโรงเรียน  หลังจากเลิกเรียนก็จะเก็บขวดตามถังขยะระหว่างทาง กลับมาบ้านเพื่อรวบรวมและนำไปขายแต่ก็ได้ไม่มาก อีกทั้งยังต้องเก็บไว้ใช้ในครอบครัวและใช้ไปโรงเรียนอีกด้วย  ส่วนตัวอยากให้ชีวิตและความเป็นอยู่ของนักเรียนและครอบครัวนี้เป็นอยู่ที่ดีขึ้นก็ยังดี เพราะน้องมีความกตัญญู รักแม่วอนผู้ใจบุญร่วมช่วยเหลือครอบครัวนี้ด้วย

ยอดกตัญญ

ด้านนางสาวพร กะลาโท๊ อายุ 43 ปี ผู้เป็นมารดาเล่าให้ฟังว่า อยู่ ๆ ขาของตนก็ไม่มีแรง ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ ไปหาหมอก็ไม่ได้บอกว่าเป็นอะไร เป็นมา 20 กว่าปี ที่ผ่านมาก็ยังพอประคองตัวได้ จนมาเมื่อ 3 ปีก่อนไม่สามารถเดินได้เลย เมื่อก่อนยังพอมีรายได้ก็มีไฟใช้ จนไม่มีรายได้เข้ามาทำให้ไม่มีเงินจ่ายค่าไฟ เลยตัดสินใจนำไฟออก และมาใช้เตาแก๊สทำอาหารจนมาถูกน้ำร้อนราดใส่ขา ก็เลยรู้สึกไม่ไหว ตัดสินใจให้ลูกชายกลับมาอยู่ด้วย แต่เดิมเรียนอยู่ที่ อ.สังขละ จ.กาญจนบุรี มีมูลนิธิช่วยเหลืออยู่ ตนอยู่คนเดียวก็รู้สึกกลัวถ้าวันไหนเพื่อนบ้านหรือญาติไม่ได้นำข้าวมาให้ วันนั้นตนก็จะไม่ได้กินข้าว พอลูกกลับมาก็ช่วยแม่ได้เยอะ ตนได้กินข้าวทุกวัน ก่อนจะไปโรงเรียนก็ทำกับข้าวให้กิน ตนรู้สึกภูมิใจกับลูกคนนี้แต่ก็สงสารลูกมากที่ต้องมารับภาระดูแลแม่ตั้งแต่ยังเด็ก

 

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส