รองสารวัตรเมาขับกระบะเสยจักรยานยนต์ 3 คันรวด ตาย 2 เจ็บสาหัส 2
วันที่ 4 กรกฎาคม 2566 เมื่อช่วงเวลา 04.00 น. ที่ผ่านมา ร.ต.อ.วิวัฒน์ จันทร์นาครอง สว.สอบสวน สภ.วังน้อย ได้รับแจ้งเหตุเกิดอุบัติเหตุรถกระบะเสยรถจักรยานยนต์ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และอาการสาหัส 2 ราย เกิดเหตุบนถนนสายวังน้อย เลียบคลองระพีพัฒน์ อย.1043 ตำบลพยอม อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีดำ หมายเลขทะเบียน ขพล 569 สุพรรณบุรี รถรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีขาวม่วง หมายเลขทะเบียน ฬจฉ 742 กรุงเทพมหานคร และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้ สีดำ หมายเลขทะเบียน องพ 365 กรุงเทพมหานคร ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมึนเมา ขับรถกระบะแคป ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บษ 1112 พระนครศรีอยุธยา ชนล้มระเนระนาดกระจายทั้ง 3 คัน สภาพพังยับเยิน ร่างผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตนอนกระจัดกระจายอยู่เต็มพื้นถนน ได้แก่ นายภูษัต งาตา อายุ 19 ปี และหญิงอีก 1 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์พยายามช่วยการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย
นางสาวพรชนก ฤกษ์ดี อายุ 23 ปี เพื่อนของผู้ตาย เล่าว่า ผู้บาดเจ็บและผู้ตายทุกคนเป็นพนักงานของคลังสินค้าวังน้อย โดยขณะเกิดเหตุเป็นเวลาเลิกงาน และทุกคนกำลังจะกลับบ้าน ขณะเกิดเหตุ เพื่อนของตนขี่รถจักรยานยนต์นำหน้าอยู่ 2 คัน มีรถจักรยานยนต์ของคู่สามีภรรยา ซึ่งทำงานอยู่ในคลังสินค้าที่เดียวกันขับตามมาเป็นคันที่ 3 ส่วนตนขี่รถจักรยานยนต์ตามหลังมาเป็นคันที่ 4 จากนั้นตนสังเกตเห็นรถยนต์กระบะขับสวนเลนส่ายไปมามาด้วยความเร็ว จากนั้นได้ขับกินเลนแล้วพุ่งเข้ามาชนรถจักรยานยนต์ของเพื่อนตน รวมทั้งหมด 3 คัน ลากไปไกลกว่า 200 เมตร จากนั้นรถกระบะก็ได้จอดรถ แต่ไม่ยอมลงมาดูคนเจ็บ เมื่อทราบว่าผู้ขับรถกระบะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนจึงกลัวว่าเพื่อนจะไม่ได้รับความเป็นธรรม กลัวว่าจะไม่มีการเป่าวัดปริมาณแอลกอฮอล์
พ.ต.อ.สมเจษฐ์ แม้นบุตร ผกก.สภ.วังน้อย เผยว่า จะให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทุกคน จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ผู้ขับรถกระบะ ได้แก่ ร.ต.ต.อัฑกร วังสะนา อายุ 53 ปี รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.วังน้อย ขณะเกิดเหตุอยู่ในช่วงเวลานอกราชการ ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ เบื้องต้นได้มีการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์แล้ว พบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ 130 มิลลิกรัม เกินกว่ากฎหมายกำหนด ทางผู้ขับขี่ไม่ได้หนีไปไหน จึงได้ทำการปล่อยตัวไปชั่วคราว ขอให้ทางญาติผู้ตายเชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำงานอย่างตรงไปตรงมาตามกระบวนการของกฎหมาย
