เจ้าของร้านผ้าสุดดีใจ! "ลิซ่า BLACKPINK" ใส่ผ้าไทยเที่ยวอยุธยา ทำยอดขายเกลี้ยง

6 มิ.ย. 66

เปิดใจเจ้าของร้านผ้า! สุดดีใจ "ลิซ่า BLACKPINK" ใส่ผ้าซิ่นเที่ยวอยุธยา ทำยอดขายหมดเกลี้ยงยอดสั่งซื้อเป็นจำนวนมากต้องรอ 1 เดือน

6 มิ.ย.2566 หลังจากนักร้องชื่อดัง "ลลิษา มโนบาล" หรือ "ลิซ่า BLACKPINK" สวมผ้าฝ้ายหมักโคลนย้อมคราม สวมใส่เป็นผ้าซิ่นไปเที่ยวอยุธยากับเพื่อนๆ กลายเป็นกระแสในโลกโซเชียลที่หลายคนตามหาซื้อใส่ตามเป็นจำนวนมาก

BLACKPINK

 

วันที่ 5 มิถุนายน 2566 เวลา 17.30 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้านชานเรือน เลขที่ 92/1-2 ตลาดผ้านาข่า เทศบาลตำบลนาข่า อ.เมืองอุดรธานี  ซึ่งเป็นตลาดจำหน่ายผ้าไทยที่ใหญ่ที่สุดใน จ.อุดรธานี พบนางสุวิมล ไชยวงศ์ อายุ 61 ปี เจ้าของร้าน ซึ่งเป็นแม่ของนางเอกสาว เดียร์น่า ฟลีโป  นักแสดง เล่าว่า เปิดร้านจำหน่ายผ้าไทยมา 30 กว่าปี โดยคุณยายจะทอผ้าไทย ทั้งผ้าไหม ผ้ามัดหมี่ ผ้าหมี่ขิด  ผ้ามัดหมี่ย้อมครามหมักโคลน สำหรับใส่ และขาย ต่อมาตนได้มาสานต่อ โดยที่ร้านจะเป็นผ้าทอมือ  HAND MADE ทั้งหมด จะเน้นลายโบราณ และย้อมสีธรรมชาติ

ลิซ่า

นางสุวิมล เล่าต่อว่า ส่วน เดียร์น่า ฟลีโป ลูกสาวรู้จักกับลิซ่า BLAKPINK ตั้งแต่เข้าวงการใหม่ๆ เพราะทั้งสองคนจะไปเรียนร้องเพลงด้วยกัน จึงได้คบเป็นเพื่อนกันตั้งแต่นั้นมา  น้องเดียร์น่าได้โทรมาบอกว่า จะไปเที่ยววัดที่ จ.อยุธยา กับเพื่อนหลายคน อยากให้แม่ตัดผ้าถุงไทยมาให้เพื่อนได้ใส่ไปวัด จึงตัดส่งไปให้หลายลายและหลายสี หนึ่งในนั้นมี “ผ้ามัดหมี่ย้อมครามหมักโคลน” ลาย “ขอนาค” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาวอิสาน เป็นลายโบราณ ที่ผู้เฒ่าผู้แก่ทอไว้ใส่ไปทำบุญ  ซึ่งลิซ่าเลือกใส่ผ้าลายนี้

ผ้าไทย

 “รู้สึกดีใจมากที่น้องลิซ่าใส่ผ้าถุง เพราะเราไม่ได้คาดหวังว่าน้องจะใส่ ตัดเผื่อไปให้จะใส่หรือไม่ใส่ก็ไม่เป็นไร พอน้องเลือกใส่ก็ดีใจมาก เพราะน้องเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ เป็นแบบอย่างให้คนรุ่นใหม่ใส่ผ้าไทยเข้าวัด ให้เด็กวัยรุ่นยุคใหม่ หันมาสวมใส่ผ้าถุงไทยเข้าวัดตามน้อง ขอบคุณที่น้องเลือกใส่ผ้าไทย ทำให้คนรุ่นใหม่มองเห็นคุณค่าของผ้าไทยด้วย”

ผ้าไทย

นางสุวิมล เล่าต่อว่า หลังจากน้องลิซ่าใส่ผ้าถุง “ผ้ามัดหมี่ย้อมครามหมักโคลน” ที่ส่งไปให้ ก็ซึ่งมียอดสั่งซื้อเข้ามาจำนวนมาก แต่อยากขอบอกลูกค้าว่าตอนนี้ไม่มีผ้าขายเพราะหมดแล้ว หากอยากได้ให้พีออเดอร์เข้ามาทางเพจร้าน “ชานเรือน นาข่า” ไอจี ชานเรือน นาข่า  ซึ่งตอนนี้มียอดเข้ามาสั่งซื้อจำนวนมาก และขายในราคาเท่าเดิมตัดเป็นผ้านุ่ง 2,800 บาท  ตนจะได้ให้ชาวบ้านทอ ถือว่าเป็นการกระจายรายได้ให้ชาวบ้าน โดยลูกค้าจะต้องรอตามคิวประมาณ  1 เดือน

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส