หนุ่มใจบุญอยากช่วยสาว TikTok หางาน 3 วัน สูญเกือบ 3 แสน ก้มหน้าน้ำตาตกยอมรับผิดกับภรรยา

3 มิ.ย. 66

หนุ่มใจบุญอยากช่วยสาวติ๊กตอกหางาน ก้มหน้าน้ำตาตกยอมรับผิดกับภรรยา รู้จักกัน 3 วัน กู้เงินช่วยสาวสูญเงิน 250,000 บาท

วันที่ 2 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจาก นายหนึ่ง (นามสมมติ) อายุ 42 ปี เนื่องจากถูกสาวในแอปพลิเคชั่น TikTok หลอกสูญเงินกว่า 250,000 บาท

หนุ่มใจบุญอยากช่วยสาวติ๊กตอกหางาน 3 วัน สูญเกือบ 3 แสน ก้มหน้าน้ำตาตกยอมรับผิดกับภรรยา

เหตุการณ์ดังกล่าว สืบเนื่องมากจาก นายหนึ่ง (นามสมมติ) เกิดถูกชะตากับ นางสาวกันภิรมย์ คุ้มห้วยบง อายุ 31 ปี (ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน 142 ม.9 ต.หนองสังข์ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ) โดยเมื่อได้พูดคุยสนทนากันมา 2-3 วัน และมีการแลกเบอร์โทรศัพท์กัน นายหนึ่ง (นามสมมติ) ได้เสนอช่วยหางานให้ฝ่ายหญิงใน อ.ปลวกแดง จ.ระยอง

หนุ่มใจบุญอยากช่วยสาวติ๊กตอกหางาน 3 วัน สูญเกือบ 3 แสน ก้มหน้าน้ำตาตกยอมรับผิดกับภรรยา

โดยระหว่างที่นางสาวกันภิรมย์อ้างว่ากำลังขับรถเดินทางมาหาที่ อ.ปลวกแดง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม จึงได้โทรมาขอยืมเงินนายหนึ่ง (นามสมมติ) เพื่อนำไปจ่ายค่าปรับ นายหนึ่ง (นามสมมติ) จึงได้โอนเงินไปให้จำนวน 1,000 บาท แต่นางสาวกันภิรมย์อ้างต่อว่าเงินไม่พอ นายหนึ่ง (นามสมมติ) จึงโอนเงินเพิ่มให้ฝ่ายหญิงอีกจำนวน 2,000 บาท หลังจากนั้นฝ่ายหญิงก็ได้ชวนคุยเกี่ยวกับไฟแนนซ์ รู้ตัวอีกที นายหนึ่ง (นามสมมติ) ก็โอนเงินไปให้ฝ่ายหญิงรวมแล้วกว่า 250,000 บาท (โอนครั้งละ 10,000-20,000 บาท) แล้วติดต่อฝ่ายหญิงไม่ได้อีกเลย

หนุ่มใจบุญอยากช่วยสาวติ๊กตอกหางาน 3 วัน สูญเกือบ 3 แสน ก้มหน้าน้ำตาตกยอมรับผิดกับภรรยา

เมื่อรู้ตัวว่าถูกหลอก นายหนึ่ง (นามสมมติ) ตัดสินใจเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนางสาวกันภิรมย์ ที่ สภ.ปลวกแดง จ.ระยอง พร้อมบอกเรื่องราวกับภรรยา ทำให้ภรรยาอุทานขึ้นมาว่า "เวลาคนในครอบครัวมีปัญหา ไม่เคยช่วย แต่กลับไปช่วยคนอื่น คนที่ไม่รู้จักหลัง”

หนุ่มใจบุญอยากช่วยสาวติ๊กตอกหางาน 3 วัน สูญเกือบ 3 แสน ก้มหน้าน้ำตาตกยอมรับผิดกับภรรยา

แต่หลังจากปรับความเข้าใจกัน นายหนึ่ง (นามสมมติ) จึงนำเรื่องราวมาบอกกับทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ออนไลน์ เพื่อขอให้กระขจายข่าวสารช่วยตามหาตัวนางสาวกันภิรมย์ เนื่องจากขณะนี้ทางครอบครัวเดือดร้อน

หนุ่มใจบุญอยากช่วยสาวติ๊กตอกหางาน 3 วัน สูญเกือบ 3 แสน ก้มหน้าน้ำตาตกยอมรับผิดกับภรรยา

นายหนึ่ง (นามสมมติ) กล่าวทิ้งท้ายว่า “ท้อมาก แค่อยากจะช่วย ต่อไปใครมาขอความช่วยเหลือคงจะยากแล้ว เข็ดแล้ว อยากจะฝากบอกนางสาวกันภิรมย์ อยากได้เงินคืน เพราะเงินที่ให้ไปนั้นเป็นเงินที่กู้เขามาให้ และอย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก”

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส