“คนเสื้อแดงอีสาน” ระบุเพื่อไทยยอมถอย 1 ก้าว ถือว่าเพียงพอแล้ว ประเทศต้องการรัฐบาลมืออาชีพ ไม่ใช่ให้ใครมาทดลองหัดบริหาร
วันที่ 30 พฤษภาคม 2566 เวลา 08.30 น. ผศ.พรรณวดี ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษาเครือข่ายคนเสื้อแดงภาคอีสาน และแก่นนำคนเสื้อแดงภาคอีสาน จังหวัดขอนแก่นและใกล้เคียง ได้ร่วมประชุมกันที่ศูนย์ประสานงานเครือข่ายคนเสื้อแดงภาคอีสาน ริมบึงหนองโคตร ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น เพื่อกำหนดท่าที และรับฟังคามคิดเห็นจากภาคประชาชน ต่อกระแสการจับมือของพรรคร่วมรัฐบาล และการเลือกประธานรัฐสภา
ผศ.พรรณวดี กล่าวว่า ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา คนเสื้อแดงได้แสดงออกที่ชัดเจนในการสนับสนุนการเมืองในพรรคที่ยึดมั่นอุมดการณ์ในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งแม้พรรคเพื่อไทยจะมีสัดส่วนของ ส.ส. มาในลำดับที่ 2 โดยขณะนี้ พรรคก้าวไกล และ พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคการเมืองฝั่งประชาธิปไตย ได้เริ่มเข้าสู่การฟอร์มทีมรัฐบาลแล้ว ซึ่งโดยส่วนตัวน้อมรับและให้เกียรติพรรคอันดับ 1 ในการจัดตั้งรัฐบาลก่อน แต่มาในระยะนี้ท่าทีต่าง ๆ นั้นเริ่มชัดเจนขึ้น คนหนุ่มไฟแรงควรที่จะฟังเสียง ส.ส. และ ส.ว. ด้วยกัน ควรให้เกียรติซึ่งกันและกัน ดังนั้นในการโหวตนายรัฐมนตรีที่จะมีขึ้นนั้น ส.ส. ทุกคนมี 1 เสียงเท่ากัน แต่จะโหวตเลือกใครนั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละบุคคลและนโยบายของทุกพรรค
“ขอให้ทุกฝ่ายถอยคนละก้าว วันนี้พรรคเพื่อไทยถอย 1 ก้าวนั้นมากเพียงพอแล้ว เป้าหมายเราคือแลนด์สไลด์ แต่เมื่อมาเป็นอันดับ 2 ทุกคนสู้กันมาเหน็ดเหนื่อย และพรรอันดับ 1 คือพรรคที่อยู่ฝั่งประชาธิปไตย ขอให้จับมือกันทำงาน และจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ เพราะทุกคนล้วนเป็นความหวัง และสิ่งที่ทุกคาดหวัง แต่ดูจากนโยบายต่าง ๆ และความชัดเจนที่เกิดขึ้น สะท้อนให้เห็นได้ในหลายมุมมอง เราไม่อยากบอกว่าใช้กลยุทธิ์อะไรในการหาเสียง หรือการสร้างจุดขายที่ทำไม่ได้ ที่ทุกคนนั้นรู้กันหมดแล้ว ผู้ใช้แรงงาน คนแก่นั้น ทุกคฝันสลายไปแล้ว และจากการลงพื้นที่พูดคุยพบว่าคนอีสานส่วนใหญ่ต้องการมืออาชีพมาบริหารประเทศ ไม่ใช่ให้ใครมาลองหัดขับอย่ามาโฆษณาเกินจริง ขอให้เร่งสร้างศรัทธาก่อนจะมาประกาศแนวทางต่าง ๆ แบบก้าวไปโกหกไป เพราะไม่ใช่เพื่อไทยแน่นอนที่จะทำแบบนั้น จะมาเร่งแก้ ม.112 แต่เพื่อไทย ชัดเจนในการแก้ปัญหาปากท้องและความเดือดร้อนให้กับประชาชน ดังนั้นจึงเป็นการบ้านข้อใหญ่ที่การเลือกตั้งครั้งต่อไป เพื่อไทยต้องแลนด์สไลด์สถานเดียว เพื่อให้มีเสียงข้างมาก และจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างเสร็จสรรพ ตามเจตนารมณ์และแนวนโยบายของพรรคที่ต้องการแก้ไขให้กับประชาชน”
