พิธีกรสาวโพสต์เล่าอุทาหรณ์ ขนมโตเกียวแอบใส่กัญชา ลูกสาวช็อคเข้า ICU

16 พ.ค. 66

พิธีกรสาวโพสต์เล่าอุทาหรณ์ ขนมโตเกียวแอบใส่กัญชา ลูกสาวช็อคเข้า ICU พอได้แล้ว กัญชาเสรี !!!

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์เล่าเรื่องราวบาดหัวใจ ซึ่งทำให้เธอเกือบสูญเสียลูกสาว ซึ่งเรื่องรายดังกล่าวถูกแชร์ต่อถึง 1 หมื่นครั้ง อีกทั้งยังมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก

 พิธีกรสาวโพสต์เล่าอุทาหรณ์ ขนมโตเกียวแอบใส่กัญชา พอได้แล้ว กัญชาเสรี !!!

เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยสองแม่ลูกได้แวะซื้ออาหารและขนมจากตลาดบางใหญ่ ซึ่งถือเป็นกิจวัตรประจำของครอบครัว โดยหลังจากที่เด็กหญิง อ. กินซูชิ (เจ้าประจำ) โดนัท ขนมโตเกียว แล้วเข้านอนในเวลา 23.00 น.

พิธีกรสาวโพสต์เล่าอุทาหรณ์ ขนมโตเกียวแอบใส่กัญชา พอได้แล้ว กัญชาเสรี !!!

ไม่นาน เด็กหญิง อ.ก็พูดว่า "I have to go to hospital now !! ” เพราะหัวใจเต้นช้าลง ปากเริ่มซีดเปลี่ยนเป็นสีม่วง ทำให้แม่ของเด็กหญิงต้องรีบพาลูกสาวไปส่งโรงบาลอย่างเร่งด่วน ซึ่งระหว่างการเดินทาง ผู้เป็นแม่ก็คอยบีบนวดตัวให้ลูกสาวอยู่ตลอดเวลา แต่ลูกสาวกลับอาการแย่ลง มือเท้าเริ่มเกร็ง ผู้เป็นแม่ได้แต่บอกลูกให้ค่อย ๆ หายใจ จนส่งตัวถึงโรงพยาบาล

เจ้าหน้าที่เร่งให้ความช่วยเหลือ เนื่องจากชีพจรของเด็กหญิง อ. อ่อนมาก สุดท้ายแพทย์แจ้งว่าเด็กหญฺง อ. ตอบสนองต่อยาเป็นอย่างดี และถูกย้ายเข้าไปพักรักษาตัวภายในห้อง ICU

พิธีกรสาวโพสต์เล่าอุทาหรณ์ ขนมโตเกียวแอบใส่กัญชา พอได้แล้ว กัญชาเสรี !!!

หลังจากการตรวจสอบ แพทย์แจ้งว่าเด็กหญิง อ. เกิดอาการช๊อคเฉียบพลันจากแพ้อาหาร แต่ไม่มีอาการเกี่ยวกับกระเพาะและลำไส้ ไม่อาเจียนเหมือนการแพ้อาหารทั่วไป โดยแพทย์สันนิษฐานว่าอาการของเด็กหญิง อ. คล้ายคนเสพยาเสพติดเกินขนาด คาดเป็นสารเสพติดกัญชาหรือใบกระท่อม เนื่องจากมีการเปิดเสรีมากขึ้น แต่ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าใช่สารเสพติดหรือไม่ เพราะเลยเวลาที่จะตรวจสอบสารเสพติดได้แล้ว

พิธีกรสาวโพสต์เล่าอุทาหรณ์ ขนมโตเกียวแอบใส่กัญชา พอได้แล้ว กัญชาเสรี !!!

ทั้งนี้ ทางครอบครัวคาดว่ากัญชาน่าจะถูกผสมอยู่ในขนมโตเกียว เนื่องจากเด็กหญิง อ. กินขนมโตเกียวเพียงคนเดียว จึงอยากโพสต์เป็นอุทาหรณ์แก่ผู้ปกครองทุกคน สารเสพติดแม้จะใส่ปริมาณน้อย แต่ก็เป็นอันตราย ต่อไปคงต้องซื้ออาหารที่มีมาตรฐาน และคงจะรแวงการซื้ออาหารของกินตามตลาดนัดไปอีกนาน

“ขอกราบขอบพระคุณคุณหมอ จนท.ห้องฉุกเฉินที่ช่วยลูกแม่ ขอบคุณพ่อที่ขับรถแบบไม่คิดชีวิต และขอบคุณลูกที่หนูมีสติมาก ถ้าหนูไม่ช่วยตัวเองด้วยอีกทาง ในวันนั้นแม่ก็ไม่รู้วันนี้แม่จะได้กอดหนูเหมือนวันนี้ไหม พิมพ์ไปหัวใจยังสั่น น้ำตาไหลไม่หยุด ไม่คิดเลยว่าชีวิตคนเราจะเปราะบางถึงเพียงนี้ รักกันไว้นะคะทุกครอบครัว เพราะเราไม่รู้เลยว่าเราจะได้กอดกันอย่างนี้ไปนานแค่ไหน สติสำคัญกับการดำเนินชีวิตจริง ๆ “

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส