แบรนด์ดัง ยืนยันปกป้องสิทธิทางกฎหมายฟ้องแย้งกลับ โอม ภวัต จิตต์สว่างดี และ บริษัท จีเอ็มเอ็ม ทีวี เรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท
จากกรณีที่บริษัท ยูโก นูทรีชันน์ จำกัด เจ้าของแบรนด์สินค้าดังได้ปลดนักแสดง โอม ภวัต ออกจากพรีเซนเตอร์ หลังถูกโยงพฤติกรรมบูลลี่เพื่อน ในอดีต ต่อมาต้นสังกัดจีเอ็มเอ็ม ทีวี ได้ฟ้องบริษัท ยูโก นูทรีชันน์ จำกัด เพื่อรักษาและสงวนไว้ซึ่งสิทธิ์และบรรเทาความเสียหายแก่ชื่อเสียงของบริษัทฯ และศิลปินต่อไป
ล่าสุดบริษัท ยูโก นูทรีชันน์ จำกัด ยืนยันปกป้องสิทธิทางกฎหมายฟ้องแย้งกลับ “นายโอม ภวัต จิตต์สว่างดี” และ บริษัท จีเอ็มเอ็ม ทีวี
บริษัท ยูโก นูทรีชันน์ จำกัด (ยูโก นูทรีชันน์) ยืนยันความถูกต้องและสิทธิชอบธรรมตามกฎหมาย พร้อมต่อสู้คดี ที่บริษัท จีเอ็มเอ็ม ทีวี จำกัด (จีเอ็มเอ็ม ที่วี) ได้ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2566 เรียกร้องค่าเสียหายเป็นจำนวน 120,000,000 บาท (หนึ่งร้อยยี่สิบล้านบาท) โดย จีเอ็มเอ็ม ที วี เป็นโจทก์ที่ 1 ฟ้องเรียกเงิน 100,000,000 บาท (หนึ่งร้อยล้านบาท) และนายภวัต จิตต์สว่างดี (นายโอม ภวัต) โจทก์ที่ 2 ฟ้องเรียกเงิน 20,000,000 บาท (ยี่สิบล้านบาท) พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5 ต่อปีของต้นเงินจำนวนดังกล่าวนับจากวันฟ้อง พร้อมค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความในอัตราอย่างสูง ในข้อหาละเมิดโดยการกล่าวหรือไขข่าว เป็นที่เสียหายแก่ชื่อเสียง เกียรติคุณ หรือทางทำมาหาได้ ทางเจริญของโจทก์ทั้งสอง
ในขณะที่ ผู้เสียหายที่แท้จริง คือ ยูโก นูทรีชันน์ ดังนั้น ยูโก นูทรีชันน์ จึงขอชี้แจงความเสียหายที่เกิดขึ้น และขอใช้สิทธิ ตามกฎหมายเพื่อให้เกิดความยุติธรรม และเป็นบรรทัดฐานที่ดีสำหรับองค์กรธุรกิจที่พึงมีจรรยาบรรณในการร่วมมือกันอย่างมืออาชีพ ด้วยความสุจริตใจ ตรงไปตรงมา และสร้างสรรค์
จากกรณีที่ ยูโก นูรีชันน์ ได้ประกาศยุติบทบาทพรีเซ็นเตอร์ของ นายโอม ภวัต ศิลปินในสังกัด จีเอ็มเอ็ม ทีวี เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากมีประเด็นในสื่อสาธารณะที่ไม่เป็นผลดีต่อทุกฝ่ายตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 กระทบตัว นายโอม ภวัต และ จีเอ็มเอ็ม ที่วี จนส่งผลลบอย่างรุนแรงต่อภาพลักษณ์ของยูโก นูทรีชันน์ ทำให้ไม่สามารถใช้ภาพของพรีเซ็นเตอร์มาตลอด 4 เดือน ตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงไว้ในสัญญา โดยหลักฐานที่ปรากฎมาตลอดนั้น ยูโก นูทรีชันน์ ได้เกิดความ เสียหาย
ทั้งนี้ ยูโก นูทรีชันน์ ได้ให้โอกาส นายโอม ภวัต และ จีเอ็มเอ็ม ที่วี ในการแก้ไขเพื่อยุติปัญหา แต่ก็ไม่สามารถนำเสนอทางออกที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ทั้งในส่วนธุรกิจในฐานะผู้ว่าจ้าง คู่ค้า และต่อสังคม ซึ่งขัดกับภาพลักษณ์ของ ยู โก นูทรีซันน์ จึงจำเป็นต้องรักษาจุดยืนขององค์กรและภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์ในการยุติบทบาทพรีเซ็นเตอร์ดังกล่าว โดยมีความตั้งใจที่จะหาทางออกและยุดิปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ผลที่ตามมาคือ ยูโก นูทรีชันน์ กลับตกเป็นจำเลยโดนฟัองจากผู้ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ ยูโก นูทรีชันน์
ยูโก นูทรีชันน์ ขอยืนยันในเจตนารมณ์ในการที่ทุกคน ทุกองค์กร และทุกภาคส่วนในสังคม พึงอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นองค์กรเล็กหรือองค์กรใหญ่ ด้วยความเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ บนพื้นฐานความยุติธรรม ความเป็นธรรม มิได้มุ่งเน้นเพียงกำไรและผลประโยชน์ส่วนตน องค์กร และ พวกพ้อง โดยมองข้ามความถูกต้อง ความเป็นจริง และความเสียหาย ที่เกิดขึ้นต่อผู้อื่นและสังคม
จึงขอยืนยันว่า ผู้เสียหายที่แท้จริง คือ ยูโก นูทรีชันน์ ทำให้ ยูโก นูทรีชันน์ ต้องต่อสู้ในคดีที่ถูกฟ้องดังกล่าวข้างต้น พร้อมทั้งฟ้องแย้งกลับเรียกค่าเสียหายจากจีเอ็มเอ็ม ทีวี และนายโอม ภวัต เป็นเงินรวม 50,000,000 บาท (ห้าสิบล้านบาท)
ซึ่งต้องการให้เป็นกรณีตัวอย่างของการใช้กฎหมายต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง และปลุกพลังเยาวชนและผู้ที่ถูกเอาเปรียบในสังคม ให้ลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิอันชอบธรรมของตนเอง
บริษัท ยูโก นูทรีชันน์ จำกัด วันที่ 12 พฤษภาคม 2566
