หนุ่มลักตัดสายไฟแรงสูง พลาดถูกช็อตตกบ่อ 4 เมตรดับสลด

19 เม.ย. 66

หนุ่มลักตัดสายไฟฟ้าแรงสูง 22,000 โวลต์ พลาดถูกช็อตตกลงท่อระบายน้ำลึก 4 เมตร เจ้าหน้าที่ระดมกำลังกู้ร่างไปชันสูตร

เมื่อเวลา 23.30 น.ของวันที่ 18 เม.ย. 66 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.กฤชฐา ประทุมแก้ว สารวัตรสอบสวน สภ.สามโคก ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตจากการถูกกระแสไฟฟ้าช็อต ในท่อระบายน้ำ ถนนเลียบทางด่วนอุดรรัถยา (ทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด) จ.ปทุมธานี จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสามโคก อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู แพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรม

เหตุเกิดภายในท่อระบายน้ำ ซึ่งเป็นท่อคอนกรีตไม่มีฝาปิด ภายในมีน้ำขังและมีสายไฟฟ้าแรงสูงเดินอยู่ภายใน สูงจากปากบ่อประมาณ 4 เมตร ในที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชาย อยู่ในลักษณะจมอยู่ใต้น้ำโดยที่สายไฟขนาดใหญ่มีร่องรอยการถูกปลอกจนผิวฉนวนหุ้มถลอก และมีร่องรอยการช็อตของกระแสไฟฟ้า เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าต้องทำการตัดระบบกระแสไฟฟ้าส่งผลให้ไฟดับเป็นบริเวณกว้าง พร้อมใช้อุปกรณ์ตรวจเช็คกระแสไฟฟ้าอย่างรัดกุม เพราะสายไฟฟ้านั้นเป็นสายแรงสูงขนาด 22,000 โวลต์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยลงไปกู้ร่างของผู้เสียชีวิตขึ้นมาชันสูตร

ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูทำการกู้ร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาได้ จากการชันสูตรเบื้องต้นพบเป็นชายอายุประมาณ 30-40 ปี แขนทั้งสองข้าง ศีรษะ และแผ่นหลังมีร่องรอยการถูกกระแสไฟฟ้าช็อตจนไหม้ จากการค้นอย่างละเอียดไม่มีเอกสารที่ทางราชการออกให้ติดต่อ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่ได้เดินทางมาตรวจสอบคาดว่า ไม่ใช่บุคคลในพื้นที่

ทางด้านนายสำเริง อายุ 53 ปี รปภ.หมู่บ้านแห่งหนึ่งเปิดเผยว่าขณะที่ตนกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่และกำลังจะไปออกตรวจโดยรอบพื้นที่มีชาย 1 คนอยู่ด้านบนท่อ ตะโดนเรียกตนเองเพื่อขอความช่วยเหลือ  ตนจึงยื่นไม้ลำยาวให้ชายคนดังกล่าวดึงเพื่อนขึ้นมาขึ้นมา โดยไม่คิดว่าทั้งคู่จะมาตัดสายไฟด้านในก่อนจะเกิดการช็อตเสียงดังขึ้นถึง 3 ครั้ง จากนั้นเพื่ออีกคนจึงได้ขับรถ จจย.หลบหนีไป

ทางด้าน พ.ต.ท. กฤชฐา สารวัตรสอบสวน สภ.สามโคกได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับแพทย์พร้อมบันทึกภาพเก็บหลักฐานและประสานให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อหาเบาะแสคนร้ายที่ยังหลบหนี พร้อมให้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างผู้เสียชีวิตส่ง รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติเพื่อรอญาติรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสตร์ต่อไป

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส