แก๊งหนี้โหดตามทวงหนี้เมียถึงบ้าน ก่อนมีปากเสียงจนผัวถูกแทงสาหัส ผู้ก่อเหตุหลบหนี ตอนนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัว
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 29 มี.ค. 66 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนางสาวสุพรรรณี อายุ 36 ปี ว่ามีแก๊งเงินกู้มาทวงเงินพี่สะใภ้ จนมีปากเสียงกับนายอานันย์ อายุ 43 ปี พี่ชายของตน และใช้อาวุธมีดแทงพี่ชายจนได้รับบาดเจ็บ จากนั้นจึงขี่ จยย.หลบหนีไป กลัวว่าคดีจะไม่คืบ เพราะแก๊งเงินกู้มีคนหนุนหลังอยู่ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 66 เวลา 09.00 น.
นางสาวสุพรรรณี เล่าว่า เมื่อตอนเช้าของวานนี้ ขณะที่ตนอยู่บ้านห่างจากพี่ชายประมาณ 50 เมตร ได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน ก็นึกว่าพี่ชายและพี่สะใภ้ทะเลาะกัน จึงเดินมาดู พบแก๊งเงินกู้ 2 คน กำลังมีปากเสียงกับพี่ชาย จึงรีบไปบอกญาติให้มาช่วย เมื่อกลับมาอีกทีพบว่าพี่ชายถูกแก๊งเงินกู้ใช้มีดไล่แทงจากในบ้าน แล้วลากตัวออกมาหน้าบ้าน จนถูกแทงเข้าที่สีข้างด้านซ้ายและแขนจนเลือดโชก ส่วนผู้ก่อเหตุขี่ จยย.หลบหนีไป จึงรีบนำพี่ชายส่งโรงพยาบาลเลย พี่ชายบอกหายใจไม่ออก จนมาถึงโรงพยาบาลหมอช่วยไว้ทัน อาการสาหัส ยังพูดไม่ได้ แต่รู้สึกตัวดี
จากนั้นทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลเลย พบนางสาววรรญา อายุ 29 ปี ภรรยาของนายอานันย์ เล่าว่า ตนเองได้ไปกู้เงินนอกระบบมา 6,000 บาท ดอกเบี้ย 1,200 บาท รวมเป็น 7,200 บาท และต้องจ่ายวันละ 300 บาท เป็นเวลา 24 วัน จ่ายไปแล้ว 14 วัน ยังคงค้างอีก 10 วัน จนนายชลที แก๊งเงินกู้มาตามทวงถึงบ้าน จึงเข้าไปหลบในบ้าน และให้สามีมาช่วยคุย และสามีไม่รู้ว่าตนไปกู้เงินนอกระบบมา ซึ่งตอนที่แทงนั้น ตนเองหลบซ่อนอยู่ในห้อง ทำให้ไม่เห็นเหตุการณ์ มาเห็นตอนที่แก๊งกู้ไปแล้ว และเห็นสามีถูกแทงร่างกายเปื้อนเลือด ส่วนเงินที่ค้างแก๊งเงินกู้นั้น ยอมรับว่าช่วงหลังหาเงินไม่ได้ และบอกขอให้กรีดยางได้ก่อนแล้วจะจ่ายส่วนที่เหลือให้หมด แต่แก๊งเงินกู้ไม่ยอม จนมีเรื่องสามีต้องมาถูกแทง
ส่วนทางชุดสืบสวน สภ.เมืองเลย อยู่ระหว่างติดตามตัวผู้ก่อเหตุที่อยู่ระหว่างหลบหนี และรอสอบปากคำผู้บาดเจ็บ แต่ตอนนี้ยังให้ปากคำไม่ได้
