“สุดารัตน์” ห่วง ฝุ่นPM2.5 ฟุ้ง! กระทบสุขภาพคนไทย

29 มี.ค. 66

“สุดารัตน์” ห่วง ฝุ่นPM2.5 ฟุ้ง! กระทบสุขภาพคนไทย ย้ำถ้าเป็นนายกจะไม่ยอมให้คนไทยตายผ่อนส่ง เสนอนโยบายแก้ฝุ่นพิษเร่งด่วน ทำทันที

วันที่ 29 มี.ค. 66 ในการเลือกตั้ง66 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า จากสถานการณ์ฝุ่นละออง pm2.5 ยังมีความน่าเป็นห่วงอย่างต่อเนื่อง กับผลกระทบสุขภาพพี่น้องประชาชนคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มคนเปราะบาง เด็ก หญิงตั้งครรภ์และคนชรา ถ้าดิฉันเป็นนายก ดิฉันจะไม่ยอมให้คนไทยตายผ่อนส่งอีกต่อไป

ทั้งนี้มาตรการเร่งด่วน ที่ต้องทำทันที ทั้งในต่างจังหวัด และในกรุงเทพฯ 

1) ระดมหน่วยงานรัฐเอาจริงกับการจัดการไฟป่า ไม่ใช่ปล่อยตามยถากรรมเช่นนี้ 

2) สนับสนุนให้งบประมาณ และเครื่องมือ ในการดับไฟกับอาสาสมัครภาคประชาชนดับไฟป่าอย่างเต็มที่ 

3) ในช่วงที่มีฝุ่นพิษมากในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอิสานควรเร่งทำฝนหลวงหรือฝนเทียมเพื่อชะล้างบรรเทาปัญหาฝุ่นพิษ แทนการมาฉีดนำ้เป็นจุดๆ 

4) เร่งเจรจาและสร้างความร่วมมือร่วมกันกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษด้วยกันอย่างจริงจัง 

5) เร่งวางแผนดำเนินการรวมกลุ่มเกษตรกร และสนับสนุนจัดหาเครื่องมือทางการเกษตร เพื่อลดการเผาอย่างจริงจัง ทั้งรถไถ เครื่องมือ เก็บเกี่ยว และเครื่องมือที่มีความจำเป็น เพื่อให้เกษตรกรไม่ต้องเผาตอซัง หรือไม่ต้องเผาไร่อ้อยเพื่อเข้าไปตัดอ้อย รวมทั้งสนับสนุนให้เอกชนซื้อเศษซากผลิตผลทางการเกษตร จากเกษตรกร เพื่อนำไปทำ Bio plastic เช่น จาน แก้ว และกระดาษต่างๆ เพื่อสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร 

สำหรับมาตรการเร่งด่วนในเขตเมือง 

1) ต้องจับรถควันดำ ปรับทันที! ที่เข้ามาวิ่งอย่างจริงจัง 

2) ต้องควบคุมการก่อสร้างรถไฟฟ้าอาคารใหญ่ให้เอาเศษผงปูนและวัสดุที่ทำให้เกิดฝุ่นออกจากพื้นที่ก่อสร้างในเมืองทันที 

3) สลับเวลาเหลื่อมเวลาการทำงานและการเรียน รวมทั้งออกมาตราการขอความร่วมมือ อย่างจริงจัง ให้สถานที่ทำงานและโรงเรียนที่มีความพร้อมทำ work from home / learn from home ในช่วงที่มีค่าฝุ่นพิษสูง

4) เร่งวางมาตรการให้เปลี่ยนรถสาธารณะทั้งหมดให้ใช้เครื่องยนต์อีวี ทำได้ทั้งการเปลี่ยนเครื่องยนต์ ให้รถเก่า รวมทั้งลดภาษีรถยนต์อีวี ที่ผลิตภายในประเทศสูงสุด 250,000 บาท และผลิตภายนอกประเทศสูงสุด 150,000 บาท 

5) ยกเลิกการเก็บภาษีหน้ากาก N95 และให้รัฐอุดหนุนเพื่อให้คนซื้อหน้ากากในราคาถูกสำหรับผู้ที่ มีฐานะยากจนให้แจกฟรี 

6) การปลูก ต้นไม้ในเมือง และปลูกป่ารอบกรุงเทพฯ ที่สำคัญต้องเร่งพระราชบัญญัติอากาศสะอาดออกมาให้เร็วที่สุด 

“อยากขอร้องให้รัฐบาลใส่ใจอย่างจริงจัง กับเรื่องของการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่ประกาศเป็นวาระแห่งชาติมาตั้งแต่ปี 62 แต่ยังไม่มีมาตรการใดที่เป็นรูปธรรม รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็ไม่มีความตื่นตัว ไม่มีความจริงจังที่จะแก้ไขความทุกข์ให้กับประชาชน ปล่อยประชาชนให้ตายผ่อนส่งอยู่ทุกวัน โดยไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือกอากาศสะอาดมาหายใจ”

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม