อย่าวางใจ! หมอนิธิพัฒน์ ชี้ PM2.5 ส่งผลต่อระบบหายใจและสมองเด็ก วอนเร่งแก้ไข

รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุลแจง PM2.5 อาจส่งผลต่ออนาคตเยาชนของประเทศชาติมีปัญหาการหายใจที่ผิดปกติ ร้องขอให้มีการแก้ไขอย่างเร่งด่วน

เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2566 รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ลงในเพจเฟซบุ๊ก “นิธิพัฒน์ เจียรกุล”ถึงสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในปัจจุบัน ที่มีผลกระทบกับเด็กทารกในครรภ์ ไปจนถึงวัยเด็กเล็ก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัญหามลภาวะที่จำเป็นต้องได้รับการควบคุมและหาแนวทางการป้องกันทั้งในเด็กและผู้ใหญ่

หลังจากมีการ call out ให้เหล่าผู้มีอำนาจหันมาสนใจ และได้ทบทวนข้อมูลทางวิชาการเพิ่มเติม จึงพบบทความเรื่องผลของ PM2.5 ที่มีต่อทารกในครรภ์จนถึงวัยเด็กเล็ก ยิ่งตอกย้ำความเร่งด่วนในการอแก้ไขปัญหาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

นอกจากนี้จากการติดตามเด็กอนุบาลบางส่วนในประเทศจีน พบว่าการสัมผัสฝุ่น PM2.5 ที่สูงตั้งแต่ในครรภ์จนถึงวัยเด็กเล็กส่งผลให้คุณภาพการนอนแย่ลง โดยเฉพาะการสัมผัส PM2.5 สูงในช่วง 0-3 ปี ซึ่งจะส่งผลให้เด็กมีปัญหาการหายใจที่ผิดปกติระหว่างการนอน และมีภาวะง่วงนอนมากในตอนกลางวัน สำหรับเด็กแรกคลอดต้องนำตัวส่งเข้าไอซียูจึงจะสามารถตรวจพบความผิดปกติได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น แต่มีอีกสิ่งที่น่าแปลกใจก็คือ เด็กที่กินนมแม่จนถึง 6 เดือน จะสามารถพบความผิดปกติที่มากขึ้น จึงคิดเอาเองว่าอาจเป็นไปได้ที่เด็กจะได้รับ PM2.5 เพิ่มมากขึ้นทางน้ำนมของแม่ที่กินเข้าไป

ในฐานะหมอ ทางรศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล ได้ออกมาแสดงความเป็นห่วงและความกังวลว่าสุขภาวะการนอนของเด็กที่ถูกรบกวนโดยเฉพาะการหายใจผิดปกติระหว่างการนอน ซึ่งอาจจะส่งผลทำให้พัฒนาการทางสมองของเด็กถูกกระทบกระเทือนตามไปด้วย นอกจากนี้ก็ได้มีการยกคำขวัญวันเด็กประจำปี 2566 มาใช้ประกอบในช่วงท้ายพร้อมกับตั้งข้อสงสัยว่า “จะมีใครที่รู้หน้าที่ แล้วทำเพื่ออนาคตเยาวชนของชาติเราบ้าง”