รมว.แรงงาน ฟันเอเจนซี่เถื่อน ตุ๋นคนไทยทำงาน “ญี่ปุ่น-มัลดีฟส์”

1 มี.ค. 66

 

กกจ.ลุยดำเนินการคดี นายหน้าเถื่อนอ้างพาไปทำงาน “ญี่ปุ่น – มัลดีฟส์” ด้วยวีซ่าท่องเที่ยว รับเงินแล้วชิ่งหนี เสียหาย 15.6 ล้านบาท

วันที่ 1 มี.ค. 66 นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เปิดเผยว่า จากกรณีผู้เสียหายจากหลายจังหวัดร่วม 20 คน ถูกผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งแอบอ้างพาไปทำงาน ตำแหน่งพนักงานต้อนรับ ประเทศมัลดีฟส์ รายได้ 80,000 – 90,000 บาท และตำแหน่งคนงานสวน ประเทศญี่ปุ่น รายได้ 72,000 บาท

โดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยวเข้าประเทศ สุดท้ายถูกหลอกลวงสูญเงินรายละ 50,000 – 85,000 บาท และเลื่อนการเดินทางออกไปเรื่อยๆ พร้อมบ่ายเบี่ยงไม่คืนเงิน จึงรวมตัวกันเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.ปคม. เพื่อตรวจสอบดำเนินคดี

ผู้เสียหายจากหลายจังหวัดร่วม 20 คน ถูกผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งแอบอ้างพาไปทำงาน

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ตนทราบเรื่องแล้วไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งการไปยังอธิบดีกรมการจัดหางาน เร่งติดตาม ช่วยเหลือ และร่วมฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้มีพฤติการณ์หลอกลวงคนไทยไปทำงานต่างประเทศตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ล่าสุดกรมการจัดหางานตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์ทางทะเบียนระบบคอมพิวเตอร์ออนไลน์แล้ว พบว่า สาย-นายหน้ากลุ่มดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ และไม่ได้จดทะเบียนเป็นลูกจ้างหรือตัวแทนจัดหางานของผู้รับอนุญาต ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 66 ข้อหาการโฆษณาการจัดหางานไม่เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

และมาตรา 91 ตรี ข้อหา "หลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางาน หรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้ และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 – 10 ปีหรือปรับตั้งแต่ 60,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ยังมีความผิด ฐานนำเข้าข้อมูลเท็จ ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

ผู้เสียหายจากหลายจังหวัดร่วม 20 คน ถูกผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งแอบอ้างพาไปทำงาน

“การไปทำงานประเทศใดต้องเคารพกฎหมายของประเทศนั้น หากสาย-นายหน้ามีพฤติการณ์แนะนำให้ทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นชักชวนทำงานผิดกฎหมาย การลักลอบเข้าประเทศ ใช้วีซ่าท่องเที่ยวไปทำงาน หรือไปทำงานต่างประเทศโดยไม่แจ้งการทำงาน ให้สันนิษฐานเป็นลำดับแรกว่าท่านกำลังถูกหลอกลวง และโปรดอย่าหลงเชื่อ” นายสุชาติ กล่าว

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ที่ผ่านมากรมการจัดหางาน ตรวจสอบ เฝ้าระวัง และประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการหลอกลวงคนหางานในทุกช่องทางมาโดยตลอด แต่ก็ยังมีคนไทยถูกหลอกลวงเรื่อยมา โดยปีงบประมาณ 2566 มีการดำเนินคดีสาย/นายหน้าเถื่อนแล้ว 78 ราย พบการหลอกลวงคนหางานทั้งสิ้น 197 คน คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย จำนวน 15,658,865 บาท จึงเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบโดยมอบหมายให้เวรประจำแต่ละวัน จับตาสื่อสังคมออนไลน์

ผู้เสียหายจากหลายจังหวัดร่วม 20 คน ถูกผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งแอบอ้างพาไปทำงาน

นายไพโรจน์ กล่าวต่อว่า หากพบเห็นผู้มีพฤติการณ์หลอกลวงบนสื่อสังคมออนไลน์ ชุดเฝ้าระวังจะนำข้อความแจ้งเตือนที่กรมการจัดหางานได้จัดทำขึ้น (แบนเนอร์โฆษณาสื่อออนไลน์) ไปโพสต์โต้ตอบใต้โพสต์ดังกล่าวทันที พร้อมกับประชาสัมพันธ์ข้อแนะนำก่อนตัดสินใจสมัครงาน วิธีการไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งมี 5 วิธี ได้แก่ บริษัทจัดหางานจัดส่ง กรมการจัดหางานจัดส่ง เดินทางไปทำงานด้วยตนเอง นายจ้างในประเทศไทยพาลูกจ้างไปทำงาน และนายจ้างในประเทศไทยส่งลูกจ้างไปฝึกงาน

ทั้งนี้ผู้ที่สนใจไปทำงานต่างประเทศสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศที่ตนจะเดินทางไปทำงาน เพื่อป้องกันการหลอกลวงผ่านระบบ e – Service กรมการจัดหางาน ที่เว็บไซต์ doe.go.th หรือเว็บไซต์กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ doe.go.th/overseas หรือที่ Facebook : ศูนย์ประสานการปราบปรามผู้เป็นภัยต่อคนหางาน หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส