"บิว จักรพันธ์" ข่มน้ำตาฟ้อง ยันไม่เคยทำร้ายร่างกาย ถ้าท้องจริงยินดีรับลูก แม้ไม่รักแม่

21 ก.พ. 66

"บิว จักรพันธ์" ข่มน้ำตาตอบ ยืนยันไม่เคยทำร้ายร่างกาย เป็นแค่การเล่นกัน ถ้าท้องจริงยินดีรับลูก แม้จะไม่รักแม่ ไม่ได้ถือโทษโกรธแค้นที่อนาคตถูกทำลาย เผยโดนข่มขู่ปรึกษาใครไม่ได้ ไปก็ไม่ได้จะอยู่ก็ทรมาน ถือเป็นกรรมที่เราก่อร่วมกันมา ลั่นด้านกฎหมายฟ้องข้อหา ข่มขืนใจ, ให้กระทำการ กรรโชกทรัพย์, รีดเอาทรัพย์, ดูหมิ่นด้วยการโฆษณา รวมถึงข้อหา ทำให้เดือดร้อนรำคาญ

โดยวันนี้ 21 ก.พ. 2566 ที่ ศาลอาญา รัชดา "บิว จักรพันธ์" เผยว่า วันนี้ผมก็รู้สึกแปลกๆ กับตัวเอง ไม่คิดว่าวันนี้จะต้องมายื่นเอกสารฟ้องใครในชีวิตนะครับ เห็นแต่ในหนัง ไม่คิดว่าจะเกิดกับตัวเอง

"ส่วนเรื่องที่อยากชี้แจง คือการทำร้ายร่างกาย ผมยืนยันไม่เคยทำ ผมไม่เคยคิดที่จะทำเลยครับ เพราะว่าผมไม่มีพฤติกรรมแบบนั้นตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว ถ้าไปถามคนที่ผมโตมาด้วยตั้งแต่เด็ก ผมไม่ไม่มีพฤติกรรมแบบนั้น จริงๆ มันคือการเล่นกัน ซึ่งเราเล่นกันแบบนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไร ตั้งแต่ตอนเป็นเพื่อนแล้ว จนมามีความสัมพันธ์กันก็เล่นกันแบบนี้"

"เช่น คลิปสับหลัง ตอนนั้นเล่นกันจริงๆ หรือคลิปดึงแขนเหมือนจะผลักตกตึก ถ้าอันนั้นเรียกทำร้ายร่างกาย อันนี้ไม่เข้าข่ายพยายามฆ่าเหรอครับ แต่มันไม่ใช่ไง ก็ตลกดี"

ในภาพของเรามันเป็นการเล่นที่รุนแรงเกินไปไหม ?
"เรื่องความรุนแรง ผมก็รู้มาตลอด ถ้าผมเล่นแรงกับเขาเกินไป ก็จะมีขอโทษเขาในวันนั้นเลยครับ"

เรื่องตั้งท้อง ?
"ผมไม่รับรู้เลยครับว่าเขาตั้งท้องมาก่อน มารู้วันที่ยุติความสัมพันธ์ เขาบอกกับผมว่าทำแท้งไปแล้ว ถ้าเขาท้องจริง ผมยอมรับ ขอดูแลลูกในท้อง ถึงแม้ว่าจะเลิกกับเขาก็ตาม แม้ว่าผมจะไม่รักเขาเลยก็ตาม ผมก็ยินดี รับเด็กในท้องเขา"

"ถามว่าเชื่อไหม ผมค่อนข้างไม่เชื่อ ในประเด็นที่เขาบอกว่าผมไม่สนใจเขา คือไม่ใช่ผมไม่สนใจนะ แต่ผมไม่อยากเชื่อ 100% ขนาดนั้น"

เรื่องทรัพย์สินและการทวงเงิน 10 ล้าน ?
"ในเรื่องทรัพย์สินผมได้คนไปเรียบร้อยแล้ว และมีหลักฐานด้วย ส่วนเรื่องที่เขามาทวงเงิน 10 ล้าน ไม่ใช่จำนวนนั้นแน่นอน แต่ผมยืมเงินเขามาจริง แต่ได้คืนไปแล้ว ในเรื่องมูลค่าของสินของที่เขาให้มาโดยผมไม่ได้ร้องขอ มีการโอนเงินเข้ามาในบัญชีของผม ผมก็โอนคืนกลับไปทุกครั้ง ผมไม่เข้าใจทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร"

ปัญหาทั้งหมดมาจากการคบซ้อนไหม ?
"ผมไม่ได้คบซ้อนครับ ผมขอยุติแล้วหลายครั้งแต่เขาไม่ยอมยุติ ทำให้ผมรู้สึกเป็นปัญหาคาราคาซัง ผมกลัวเขาจะข่มขู่ ผมกลัวจริง เขาบอกว่าเขาจะเปิดโปงทุกอย่าง จะบอกทุกคนว่าเราคบกัน จะมีผลกระทบ ตอนนั้นผมไม่สามารถปรึกษาใครได้เลยในเรื่องแบบนี้ (เสียงสั่นจะร้องไห้) ตอนนั้นตกอยู่ในสภาวะที่จะไปก็ไม่ได้จะอยู่ก็ทรมาน แต่ไม่เป็นไรครับ ตอนนี้ผมไม่กลัวอะไรแล้ว ถ้าไม่สู้ตอนนี้ก็ไม่รู้จะสู้ตอนไหน"

บิว จักรพันธ์

"หลังจากมีประเด็นเกิดขึ้น ผมไม่ขอติดต่อกับเขาไม่ว่าทางใดทางนึง ซึ่งควรเป็นแบบนั้น เพราะไม่เห็นหนทางว่ามันจะดีขึ้น ช่วงหนึ่งเคยโทร.คุย ยืนยันความบริสุทธิ์ ว่าผมไม่ได้ทำ (เสียงสั่น)"

"ซึ่งเขาบอกว่าเชื่อ แต่เขากล่าวหาว่าผมเอาตัวรอด เห็นแก่ตัวเอง สำหรับผมเลยจุดคำว่าเสียใจมากพอแล้วครับ ถามว่าตายทั้งเป็นไหม ไม่ขนาดนั้นครับ อย่างน้อยผมก็มีครอบครัว ผมยังมีคนที่รักและรอผมอยู่ ผมต้องก้าวต่อไปให้ได้"

"ผมไม่สามารถมองอนาคตได้ออก แต่ผมจะพยายามแก้ไขอดีต ในสิ่งที่เคยทำผิดพลาดลงไป หรือผมไม่ได้ทำก็ตาม และผมจะพัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่ดีขึ้นในทุกๆ วัน"

"อยากจะบอกทุกคนนะครับวิจารณ์ผมได้ในแบบเหตุผล และมีอารยะ ผมรับได้ครับ"

"ความเสียหายได้ประเมินแล้ว แต่ความสูญเสียทางจิตใจของผมเอง ผมก็ไม่รู้สึกดี ถ้าโดนทำลายชีวิตขนาดนี้ แต่ผมยังยังมีครอบครัวที่ให้กำลังใจ (ร้องไห้)"

"เรื่องเจรจาพร้อมเสมอ พร้อมจะปรับความเข้าใจกับเขา เพราะไม่ได้ถือโทษโกรธแค้นอะไรกันมากับเขา ผมคิดว่าเป็นกรรมที่เราก่อร่วมกันมา"

สำหรับในทางกฎหมาย ทนายความ เผยว่า "ข้อกฎหมายยังตอบมากไม่ได้ แต่มีคำฟ้องแล้ว ทั้งข่มขืนใจ ให้กระทำการ กรรโชกทรัพย์ รีดเอาทรัพย์ ดูหมิ่นด้วยการโฆษณา รวมถึงข้อหาเล็กน้อย ทำให้เดือดร้อนรำคาญ ส่วนค่าเสียหายขอว่ากันหลังจากนี้"

"สำหรับหลักฐานที่บิวส่ง มีน้ำหนักครบถ้วน เชื่อว่าสามารถจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ศาลนัดเดือน พ.ค. แต่ยังไม่สามารถบอกวันได้ จะได้เจอคู่กรณีไหม ศาลจะเป็นฝ่ายส่งหมายไป คู่กรณีบอกมีหลักฐาน บาดแผลต่างๆ คิดว่ายังไม่ใช่หลักฐานเชิงประจักษ์ ไม่งั้นเขาต้องฟ้องเราก่อน ส่วนโซเชียล ที่คอมเมนต์ ก่อให้เกิดความเสียหาย กล่าวใส่ร้ายป้ายสี หยาบคาย ทนายจะดำเนินการทุกกรณี ซึ่งได้ดำเนินไปแล้วบางเคส"

บิว จักรพันธ์

บิว จักรพันธ์

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส