สลด! สาววัย 32 ถูกฆาตกรรมในบ้าน ลูก 6 ขวบนั่งเฝ้าศพแม่บอกยายว่า "แม่ยังไม่ตื่น"

7 ก.พ. 66

สลด! สาววัย 32 ปี ถูกฆาตกรรมภายในบ้าน ลูก 6 ขวบนั่งเฝ้าศพแม่บอกยายว่า "แม่ยังไม่ตื่น" ครอบครัวเผยไม่เคยทะเลาเบาะแว้งกับใคร

วันที่ 7 ก.พ. 2566 คดีฆาตกรรมหม้ายสาววัย 32 ปี เกิดขึ้นที่บ้านควนโพธิ์หมู่ที่ 7 ตำบลควนโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดสตูล โดยสาว คือ นางพิมพา สงวนนามสกุล อายุ 32 ปี ได้เสียชีวิตภายในห้องนอนของตนเอง หลังแม่และพ่อของผู้ตายกลับจากกรีดยางพารา (ประมาณ 7 นาฬิกาของวันนี้) เห็นหลานชายวัย 6 ขวบ นั่งอยู่ได้สอบถามว่า ทำไมไม่ไปโรงเรียน? โดยหลานบอกว่าแม่ยังไม่ตื่นจึงเหลือบไปเห็นสภาพศพบุตรสาว ถูกเปลือยท่อนล่างและร่องรอยบาดแผลที่บริเวณลำคอเขียวช้ำ คล้ายรอยรัด ข้างร่างผู้ตายพบสร้อยคอทองคำขาดตกอยู่ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้เชื่อว่าเป็นการลงมือระยะประชิดตัว

ศพ

โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทีมสืบสวนสอบสวนเร่งแกะรอยคนร้าย หลังพบว่ามีการไขกุญแจรั้วและกุญแจหลังบ้านเข้าไปก่อเหตุ พร้อมกันนี้ยังพบไขควงตกอยู่ในที่เกิดเหตุและพบร่องรอยของการงัดประตูหลังบ้าน เพื่อนบ้านบอกว่า ผู้ตายเป็นเด็กขยันทำมาหากินไม่เคยเห็นว่ามีหนุ่มๆ มาติดพัน หลังจากที่หย่าร้างกับสามีหลายปีแล้ว และเลี้ยงลูกชายอยู่กับพ่อและแม่ที่บ้านหลังนี้มาโดยตลอด

ด้านนางบีนายจ้างผู้ตายบอกว่า ทันทีที่ทราบข่าวว่าพนักงานเสียชีวิตยอมรับว่าตกใจมาก เพราะน้องเป็นเด็กขยันขันแข็งทำงานกับบริษัทมานาน 7 ปี ทำหน้าที่เป็นเสมียนดูแลบัญชีงานก่อสร้างของบริษัท ทุกปีทางบริษัทจะนำพนักงานไปเที่ยวปีละหนึ่งครั้ง น้องก็เป็นคนร่าเริงและหน้าตาดีและไม่เคยเล่าปัญหาในครอบครัวให้ฟังมาก่อน และไม่เคยเห็นว่ามีใครมายุ่งเกี่ยว โดยน้องจะมาทำงาน 8 โมงเช้าและกลับ 5 โมงเย็น

สตูล

นายจำรัส สงวนนามสกุล ตำบลควนโพธิ์ เล่าว่าลูกบ้านรายนี้เป็นครอบครัวที่อบอุ่น แต่ตนเคยมาเป็นพยานกรณีลูกเขยกับพี่สาวผู้ตายทะเลาะเบาะแว้งกันมาก่อน จะเลิกราและแยกย้ายกันอยู่ โดยพี่สาวผู้ตายย้ายไปอยู่จังหวัดสุราษฏร์ธานี และพี่เขยย้ายออกไปอยู่บ้านตะโล๊ะใสอำเภอละงู จังหวัดสตูล แต่ที่พี่เขยยังมีกุญแจบ้านของผู้ตายติดตัวไปด้ว ยไม่แน่ใจว่าเกี่ยวพันกันหรือไม่

พ่อแม่ผู้ตายเล่าว่า ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใครมาก่อน หรือมีศัตรูที่ไหน ทุกเช้าพ่อกับแม่จะไปกรีดยางพาราในสวนตั้งแต่เที่ยงคืน กลับบ้านอีกครั้งประมาณ 7-8 โมงเช้า เป็นแบบนี้ทุกวันซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมองว่า คนร้ายน่าจะรู้นอกออกในบ้านเป็นอย่างดี เพราะมีการไขกุญแจหน้าบ้านเข้ามา และหลังบ้านก็มีการไขกุญแจ โดยกุญแจก็จะมีของพ่อถือไว้ 1 ดอกและพี่เขยอีก 1 ดอก

โดยตั้งข้อสังเกตุว่าบ้านได้ล็อกอย่างแน่นหนา คนที่จะเข้าได้ต้องมีกุญแจ และก่อนหลบหนียังได้สับคัตเอาท์ไฟฟ้าในบ้านดับลงได้อย่างถูกต้อง ซึ่งลูกเขยที่มีกุญแจบ้านก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรหรือทะเลาะเบาะแว้งกัน

 

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส