รวบโจรขโมย "เครื่องกระตุกหัวใจ AED" พบเป็น อาสากู้ภัยฯ ทำไปเพราะร้อนเงิน

26 ม.ค. 66

จับได้แล้ว คู่หูโจรขโมย เครื่องกระตุกหัวใจ AED พบเป็น อาสากู้ภัยฯทั้งคู่ สารภาพได้เงินง่าย รายได้ดี จึงยึดเป็น จ๊อบเสริม ตร.ตั้งข้อหาหนัก

จากกรณีการหายไปของ เครื่องกระตุกหัวใจ ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลถึง 27 เครื่อง และช่วงเย็นวานที่ผ่านมา ตำรวจจากกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ทำการคุมตัวชายผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุการลักทรัพย์ในครั้งนี้มาทำการพูดคุยสอบถามที่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน และมีรายงานว่าได้มีผู้ที่นำเครื่องกระตุกหัวใจดังกล่าวมาคืนไว้ที่ สน.ตลิ่งชัน จำนวน 7 เครื่อง

ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน พลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า ความคืบหน้าตอนนี้ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 2 รายคือ นายรุ่งโรจน์ (สงวนนามสกุล) หรือ "เหน่งตาเดียว" อายุ 37 ปี และ นายวีรยุทธ (สงวนนามสกุล) หรือ "แจ็ค" อายุ 32 ปี

โดยนายรุ่งโรจน์ จะทำหน้าที่ขโมยเครื่องกระตุกหัวใจ และส่งให้ นายวีรยุทธ ทำหน้าที่กระจายของออกขายไปให้กับกลุ่มอาสาสมัครที่ต้องการซื้อผ่านทางออนไลน์ หรือการบอกปากต่อปาก

โดยพฤติการณ์ก่อเหตุ นายรุ่งโรจน์จะเป็นผู้ลักทรัพย์มาและนำมาขายให้กับนายวีรยุทธ ในราคา เครื่องละ 12,000 บาท ก่อนที่นายวีรยุทธ จะขายกระจายออกไปให้กับกลุ่มอาสาสมัคร ทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในราคา 13,000-15,000 บาท อีกทอดหนึ่ง ขณะที่ในส่วนของราคาจริงๆ ของเครื่องนี้จะอยู่ที่ประมาณ 70,000 บาท

ซึ่งขณะนี้สำหรับเครื่องกระตุกหัวใจที่เครือข่ายที่ 1 รับสารภาพว่าก่อเหตุไป มีทั้งสิ้น 6 จุด 6 เครื่อง สามารถติดตามกลับมาได้แล้ว 4 เครื่อง อีก 2 เครื่องอยู่ระหว่างประสานให้นำเข้ามาส่งคืน ทราบว่าขณะนี้อยู่ระหว่างเดินทางมา

พลตำรวจตรีธีรเดช ยังระบุอีกว่า ขณะนี้ พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มีการสั่งการให้ทางกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาลตั้งศูนย์ปฏิบัติการติดตามเครื่องกระตุกหัวใจที่สูญหายไปทั้งหมด เนื่องจากเหตุเกิดในหลายพื้นที่ และเพื่อความสะดวกแก่การติดตามจับกุมและการดำเนินคดี

โดยขอฝาก ประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้องประชาชน หากท่านใดพบเห็นเครื่องกระตุกหัวใจลักษณะดังกล่าวมีการบอกขายจากกลุ่มคนใดให้ส่งข้อมูลมาทางกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ทันที

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา นายรุ่งโรจน์ ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ส่วนนายวีรยุทธแจ้งข้อหารับของโจร โดยทั้งสองเป็น อาสาสมัครของมูลนิธิแห่งหนึ่ง ซึ่งทั้งสองให้การรับสารภาพว่าทำไปเพราะต้องการเงิน เมื่อเห็นว่าสามารถหาเงินจากช่องทางนี้ได้จึงก่อเหตุซ้ำ ส่วนเครือข่ายที่ 2 มีข้อมูลทราบเช่นกันว่าเป็นอาสาสมัครของมูลนิธิเช่นเดียวกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี

advertisement

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส