หนุ่มนักธุรกิจถูกขโมยของในฟิตเนส สูญ 10 ล้าน เข้าแจ้งความแล้ว

12 ม.ค. 66

หนุ่มนักธุรกิจ วัย 35 ปี เล่ารายละเอียดหลังเข้าใช้บริการ ฟิตเนสชื่อดังย่านงามวงศ์วาน ถูกโจรไขล็อกเกอร์ขโมยของ สูญรวมกว่า 10 ล้าน

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 12 ม.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี มีหนุ่มนักธุรกิจเข้ามาใช้บริการที่ฟิตเนสชื่อดังแห่งหนึ่ง แล้วสิ่งของมีค่าที่เก็บเอาไว้ขณะออกกำลังกายได้ถูกขโมยหายไปจากตู้เก็บล็อกเกอร์ที่เก็บของ สูญทรัพย์สินไปกว่า 10 ล้านบาท จึงรีบแจ้งความกับตำรวจให้มาตรวจสอบเหตุดังกล่าวบนฟิตเนสห้างดัง

ต่อมาทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางขึ้นไปขอสัมภาษณ์กับทางผู้จัดการดูแลฟิตเนสแห่งนี้ ว่าเรื่องของหายของลูกค้านักธุรกิจหนุ่มดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร ภายในมีระบบกล้อง CCTV รักษาความปลอดภัยเพียงพอหรือไม่ มีลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการสถานที่แห่งนี้จะปลอดภัยมากน้อยเพียงใด เพราะมีเคสลูกค้าเข้ามาใช้บริการทรัพย์สินถึงได้หายกันบ่อยแล้วเรื่องเงียบหายกันไป แต่กลับได้รับคำตอบจากผู้จัดการที่ดูแลสถานที่เพียงว่าไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูลใดๆ กับทางสื่อมวลชน ทางเราได้ให้ข้อมูลหลักฐานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว ผู้ดูแลฟิตเนสแห่งนี้กล่าว

ขณะที่ นายสาธิต (ขอสงวนนามสกุล) หนุ่มนักธุรกิจ อายุ 35 ปี ผู้เสียหาย กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุตนไปถึงที่ฟิตเนสประมาณ 6 โมง เช็กอิน เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดออกกำลังกาย และเก็บของตามปกติ เสร็จแล้วลงไปออกกำลังกายประมาณ 2 ชม. หลังจากนั้นขึ้นมาเอาผ้ามาเช็ดหน้าและกำลังจะอาบน้ำ เปิดล็อกเกอร์มาโล่ง ตนเลยคิดว่าเปิดผิดตู้ เลยเปิดใหม่ดู หลังจากนั้นตนวิ่งลงไปเพื่อแจ้งกับฟิตเนสว่าของตนหายหมดเลย

ทางฟิตเนสบอกว่าจะช่วยดูกล้องให้ ตนเลยบอกขออนุญาตโทรแจ้งความ ตรงห้องน้ำมันไม่มีกล้องวงจรปิด จะมีแค่บริเวณทางเข้า จะเห็นได้แค่ว่าใครเข้า-ออก หลังจากตนโทรไปแจ้งความตำรวจสายตรวจก็มาที่เกิดเหตุ แต่ทางฟิตเนสก็ไม่ให้เข้า บอกต้องมีหมายมาก่อน

ตอนนั้นประมาณ 3 ทุ่มแล้ว ฟิตเนสปิดประมาณ 4 ทุ่ม ตนเลยโทรหาเพื่อนให้มารับพาตนไปลงบันทึกประจำวันและขอใบไปยื่นกับทางฟิตเนสเพื่อให้ตำรวจเข้าที่เกิดเหตุ

ทางฟิตเนสก็ดำเนินการตามขั้นตอนของเขา แต่ตนคิดว่าถ้าทำได้ดีกว่านี้คงไม่มีปัญหา ตนยังมองว่าทางฟิตเนสกันๆ บางส่วนอยู่ ทำไมเกิดเรื่องแล้วถึงไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไป ของตนที่หายรวมแล้ว มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ประกอบไปด้วย นาฬิกา พระ สร้อยพระ เลส แหวน กุญแจรถ เสื้อเชิ้ตทำงานแขนยาว กางเกงสแล็กส์ แม้กระทั่งกางเกงในก็ยังเอาไป ครีมทาผิว ซึ่งเอาไปหมดเลย

ตนกังวลว่าเรื่องมันจะนิ่ง หลังจากที่เกิดเรื่องและมีข่าวออกไป ก็มีคนทักมาหาตนว่าเขาก็เคยของหาย เป็นผู้เสียหายเหมือนกัน แต่ข่าวมันเงียบไป ตนก็เป็นผู้เสียหายที่ต้องมาร้องเรียน คือล็อกเกอร์มันต้องมีคีย์การ์ดใส่เข้าไปเพื่อบิดกุญแจออก ตนเอาของเก็บเสร็จก็ไปออกกำลังกาย เข้ามาก็ไขเหมือนเดิม ซึ่งล็อกเกอร์ไม่ได้มีรอยงัดอะไรแต่ของหายไปหมดเลย

ตนไม่อยากจะเดาว่าเป็นคนใน แต่ลักษณะมันคือเอากุญแจไขเอาของไป ไม่ได้เปิดค้างไว้ คือเอาของไปและก็ไขกุญแจล็อกเหมือนเดิม ตนก็คนออกกำลังกาย อยากให้มีความปลอดภัย มีความไว้ใจได้ มันก็ค่อนข้างใจหาย ตนใช้บริการที่นี่มาเป็น 10 ปีแล้ว ระบบการรักษาความปลอดภัยควรจะรัดกุมมากกว่านี้ ลูกค้าที่มาใช้บริการออกำลังกายจะได้ไม่แวงข้าวของสูญหายระหว่างทำกิจกรรม

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส