กลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรม่อนแจ่มเตือน คนร้ายปลอมเพจที่พักดอยม่อนแจ่ม หลอกให้นักท่องเที่ยวโอนเงิน สุดท้ายไม่ได้เข้าพัก
วันที่ 1 ม.ค. 66 ที่ม่อนสายลม ดอยม่อนแจ่ม ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เพจที่พักดอยม่อนแจ่ม จ.เชียงใหม่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรม่อนแจ่ม แถลงกรณีที่มีกลุ่มมิชฉาชีพแอบลักลอบเปิดเพจเฟซบุ๊กปลอม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในพื้นที่ดอยม่อนแจ่ม แล้วพอมีนักท่องเที่ยวหลงเชื่อ ก็ให้โอนเงินค่าจองที่พัก แล้วพอนักท่องเที่ยวเดินทางมาที่ดอยม่อนแจ่ม ก็ไม่สามารถเข้าพักจริงได้
นายวิชิต เมธาอนันต์กุล นายกเทศมนตรีเทศบาล ต.แม่แรม และกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวกว่า 100 กิจการ ที่เป็นกิจการที่พักบนดอย กล่าวว่า เนื่องด้วยช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาพักที่ม่อนแจ่มเป็นจำนวนมาก และปรากฏว่ามีมิจฉาชีพกลุ่มหนึ่งสร้างเพจเฟซบุ๊กที่พักปลอมหลายแห่ง โดยแอบอ้างชื่อที่พักและนำรูปที่พักไปใช้ เพื่อหลอกลวงนักท่องเที่ยวก่อให้เกิดความเสียหายแก่ที่พัก และนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก รวมมูลค่าความเสียหายหลายแสนบาท จากการตรวจสอบเบื้องตันพบว่ากลุ่มมิจฉาชีพทำการปลอมแปลงเพจเฟซบุ๊กและไลน์ของที่พักหลายแห่งในม่อนแจ่ม โดยใช้วิธีการสร้างเพจเฟซบุ๊กหรือไลน์และนำรูปของที่พักไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้งกลุ่มมิจฉาชีพยังมีการสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่เพจเฟซบุ๊กที่ปลอมนี้ ด้วยวิธีสร้างเพจที่พักปลอมให้เหมือนกับเพจจริงให้มากที่สุดโดยนำข้อมูลที่พักและรูปที่พักไปโพสต์สร้างความน่าเชื่อถือให้มีการโปรโมทเพจเฟซบุ๊กโดยการใช้เงินในการโฆษณาเพิ่มผู้ติตตามให้มีผู้คนเข้าถึงเพจได้เป็นจำนวนมาก มีกระบวนการทำงานเป็นทึม โดยใช้คนกลุ่มหนึ่งในการกดไลค์เพจ แชร์เพจ คอมเม้นต์โพสต์ และเขียนรีวิวเพจ กลุ่มมิจฉาชีพโดยในรอบ 10 วันที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวที่ตกเป็นเหยื่อแล้วจำนวนกว่า 100 ราย คิดเป็นเงินค่าเสียหายราว 300,000 บาท
นายวิชิต กล่าวต่อว่า กลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรม่อนแจ่มเห็นว่าการกระทำของกลุ่มมิจฉาชีพ เป็นการกระทำที่สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง เข้าข่ายการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน เพียงแต่กระบวนการทางกฎหมายขณะนี้ยังไม่อาจหาตัวผู้กระทำความผิดได้เท่านั้น หากปล่อยไว้นาน จะทำให้มีผู้เสียหายเพิ่มขึ้น กลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรม่อนแจ่มมีความเป็นห่วงนักท่องเที่ยว ฝากเตือนภัยถึงนักท่องเที่ยวให้ระมัดระวัง ตรวจสอบเพจเฟซบุ๊กของที่พักให้รอบคอบก่อนทำการโอนเงินชำระค่าห้องพัก เบื้องต้นที่พักที่ถูกปลอมเพจได้ลงบันทึกประจำวันเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว และแจ้งความดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ฐานปลอมแปลงเพจเฟซบุ๊กไว้แล้วจึงได้ออกมาเตือนภัยให้แก่บรรดานักท่องเที่ยว เพราะนอกจากจะเสียเงินจองที่พักแล้วยังเสียเวลาในการเดินทางมาอีกด้วย
